ตอน redeem คะแนน แลกตั๋วเครื่องบิน จะต้องจ่ายค่าภาษีสนามบิน และภาษีน้ำมัน คนละ 5,825 บาท อาจจะแพงหรือถูกกว่านี้ ตามค่า Surcharge (ภาษีน้ำมัน)
มีเงินไม่ถึง 20,000 บาท อยากไปเที่ยว Maldives ทำได้ค่ะ แต่ต้องเตรียมตัวพอสมควร
เริ่มจาก ตั๋วเครื่องบินจากกทม. ไปมัลดีฟส์ ต้องไม่แพงค่ะ เราใช้วิธีสะสมคะแนนจาก
บัตรเครดิตแล้วก็โอนแต้มไปที่ Flyer Bonus ของ Bangkok Airways ค่ะ
การจะได้ point ของ Bangkok Airways ทำได้ หลายๆ ทาง คือ
1. Airlines
2. Hotel & Accommodations
3. Financial Institutions
4. Car rental
5. Lifestyle
1. Airlines สายการบินที่เป็นพันธมิตรกับ Bangkok Airways ก็มี Etihad Airways /
Airberlin / Japan Airlines / Cathay Pacific and Dragonair / Jet Airways บินกับ
สายการบินไหนก็ได้ค่ะ ก็จะได้แต้ม Flyer bonus ได้ คงไม่ลงรายละเอียดว่าได้กี่แต้มยังไง
ไปดูเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bangkokair.com/eng/flyerbonus/view/earn-points-airline
2. Hotel & Accommodations การไปพักที่โรงแรมที่เป็นพันธมิตร กับ Bangkok Airways ก็จะได้
แต้มสะสมเช่นกัน ตามนี้
- Anantara Hotels, Resorts and Spas
- Burasari
- Centara Hotels and Resorts
- Chatrium Hotels and Residences
- Dusit Hotels & Resorts
- Hansar Samui Resort
- Imperial Hotels and Resorts Thailand
- Langham Hospitality Group
- JW Marriott Hotels & Resorts
- Panviman group of Resorts
- Juliana Hotels & Residences
- SilverNeedle Collection
- Sedona Hotel Mandalay
- The Salana Boutique Hotel
- Away and X2 Resorts and Villas
3. Financial Institutions บัตรเครดิตที่เป็นพันธมิตร กับ Bangkok Airways มี
ธนาคารกรุงเทพ กสิกร กรุงศรี และกรุงไทย
750 - 1,500 คะแนน แลกได้ 10 points แล้วแต่เงื่อนไขของธนาคาร และก็แล้วแต่ประเภทบัตรที่ถือ ตอนนี้ KTC เริ่ดสุด
4. Car rental บริษัทรถเช่าที่เป็นพันธมิตร กับ Bangkok Airways มี AVIS / Budget / Hertz
5.Lifestyle ตอนนี้มีแค่ร้านอาหารชื่อ Brasserie 9 กับบริษัททัวร์ Blu Anda
เราสะสมแต้มของบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทยกับธนาคารกรุงศรี มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็โอนมาเป็นแต้ม Flyer Bonus รอจังหวะแลกเที่ยวบิน
แต้มปกติที่ต้องมี ถ้าต้องการแลกตั๋วไปกลับกรุงเทพ – มัลดีฟส์ เที่ยวละ 250 แต้ม
2 เที่ยว คือเที่ยวไป + เที่ยวกลับ คือ 500 แต้ม (ใช้แต้มเยอะมาก) ถ้าต้องการตั๋วสำหรับ 2 คน คือ 1,000 แต้ม (อย่างเยอะ) กว่าจะได้มาครั้งละ 10 แต้มนี่ หืดขึ้นคอ
ที่บอกให้โอนแต้มมารอ คือรออะไร
นี่ค่ะ...รอตอนมี promotion ลด 70% (บางทีก็มีโปรโมชั่นลด 50% แล้วแต่โอกาส) ของการใช้แต้มแลกค่ะ
เราได้ Promotion FlyerBonus 70% OFF Award Sale ค่ะ ซึ่งโปรโมชั่นนี้ เท่าที่ผ่านมามีทุกปีนะ
ทำให้การแลกตั๋วไปกลับกรุงเทพ – มัลดีฟส์ เหลือแค่เที่ยวละ 75 แต้ม 2 เที่ยว คือเที่ยวไป + เที่ยวกลับ คือ 150 แต้ม ถ้าต้องการตั๋วสำหรับ 2 คน คือ 300 แต้มเท่านั้น
เมื่อได้ตั๋วเครื่องบินมาแล้ว ต่อไปก็เป็นค่าที่พัก และการเดินทางจากสนามบินไปยังที่พักค่ะ
เนื่องจาก Maldives มีเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก มีที่พักมากมายอยู่บนเกาะเหล่านั้น ซึ่งภาพที่ออกมาให้เราเห็นๆ กันนั้น ก็จะเป็นภาพของที่พัก style Water bungalow งามๆ ซึ่งที่พักเหล่านี้ จะเป็นรีสอร์ทบนเกาะส่วนตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องแพงแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง ราคาที่พักก็จะอยู่ที่หลักหมื่น ไปถึงหลักแสนค่ะ
แต่หากว่า เราเปลี่ยน style ที่พัก ไม่พักบนเกาะส่วนตัวหล่ะ ลองคิดจะไปใช้ชีวิตแบบชาว Maldivian ดู ลองหาที่พัก Style โฮมสเตย์ หรือ โรงแรม 2-3 ดาวดูค่ะ โดยเน้นคะแนนรีวิวจากนักท่องเที่ยว และอ่าน comment จากนักท่องเที่ยวดูว่า เค้ามีประสบการณ์อย่างไรบ้างกับที่พักเหล่านั้น
หลังจากนั่งๆ อ่านรีวิว comment ต่างๆ ใน web ที่ให้บริการจองที่พัก เราก็มาลงตัวที่ที่พักแห่งนี้ ซึ่งได้คะแนนประเมินเต็ม 10 เลยค่ะ ที่พักชื่อ Finihiyaa Inn Maldives บนเกาะ Huraa อยู่ทางตอนเหนือของ Maldives
ทำไมถึงเลือกที่พักแห่งนี้ มีหลายเหตุผล
1. ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก ถ้ายิ่งไกล ต้องใช้เวลาเดินทางนาน ทางเลือกในวิธีการเดินทางมีไม่มาก อาจต้องใช้เครื่องบินในประเทศ หรือเครื่องบินน้ำ หรือ speed boat ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูง
2. ที่พักนี้ อยู่ใกล้ resort สวยๆ 3 แห่งค่ะ อีกอย่างที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถไปทำได้ เช่น Snorkeling / ว่ายน้ำกับเต่าทะเล ฯลฯ
เราได้ที่พัก 3 คืน รวมอาหารเช้ามา ในราคา 150 USD (ประมาณ 5,400 บาท) มีค่าภาษีเมืองอีก 12% อีก 18 USD โดยรวม ค่าห้องพัก จะอยู่ที่ ประมาณ 6,000 บาท สำหรับ 2 คน
การเดินทาง จากสนามบิน Ibrahim Nasir International Airport เดินทางได้หลายวิธี ซึ่งเราเลือกวิธีถูกสุด ตามวิถีชีวิตปกติของชาวมัลดีฟส์เลย โดยใช้ public ferry
จากเกาะที่ตั้งของสนามบิน ต้องนั่งเรือ ferry ข้ามฝั่งมาที่ Male เกาะที่เป็นเมืองหลวงของมัลดีฟส์
ค่าโดยสารเรือธรรมดา คนละ 1 USD (หรือ 10 MVR)
ถ้าเป็น speed boat ค่าโดยสารเรือ คนละ 2 USD (หรือ 25 MVR)
สำหรับเรือธรรมดา ใช้เวลา 10-15 นาที ถ้าเป็นเรือ Speed boat ใช้เวลาเพียง 5 นาที เรือจะไปเทียบท่าที่ Jetty number 9 ที่ฝั่ง Male
เงิน 1 MVR = 2.29 THB โดยประมาณ (Rate วันที่ 27 มิถุนายน 2559) http://th.coinmill.com/MVR_THB.html#MVR=1
จากท่าเรือบนเกาะ Male Jetty number 9 เดินถอยมาเรื่อยๆ เพื่อไป Jetty number 7
จาก Male ไปเกาะ Huraa ต้องไป ที่ Jetty หมายเลข 7 เรือชื่อ Dhiraasa 2 ออกจาก Male เวลา 15.00 น. ควรมาก่อนเวลาเรือออก และลงไปรอในเรือ เด็กเรือจะมาเก็บค่าโดยสารในเรือเลย ค่าโดยสาร คนละ 2 USD (หรือ 20 MVR) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. จะถึงเกาะ Huraa ของเรา
เรือที่เราโดยสารชื่อ Dhiraasa 2 ค่าเรือคนละ 20 MVR
ในช่วงที่เราไปนั้น เป็นเทศกาล “รอมฎอน” เจ้าของ Guesthouse บอกเราว่า เรือที่ไป Huraa ย้ายไปจอดที่ Jetty number 1 (จากที่ปกติ อยู่ที่ Jetty no. 7)
ขากลับ จาก Huraa มา Male เรือจะออกเวลา 8.00 น. แต่ในช่วงเทศกาล “รอมฎอน” เรือออก 9.00 น.
เรือมีวันละเที่ยวเท่านั้น และจะไม่มีเรือในวันศุกร์
ทาง Guesthouse บอกว่า สามารถ arrange เรือ speed boat มารับได้ เที่ยวละ 130 US$ ต่อลำ (กี่คนก็ได้เท่าที่ speed boat รับไหว) หรือหากอยากนั่ง Seaplane ก็เที่ยวละ 100 US$ ต่อคน
ดังนั้น ในการเดินทาง ควร confirm กับที่พัก เรื่อง number ของ Jetty และเวลาเรือออก หรือ ชื่อเรือกับทางที่พักด้วย เพราะข้อมูลพวกนี้ ไม่ค่อย Public หา schedule ในการเดินเรือไม่ค่อยได้ ไม่มีรายละเอียดบน web ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว โรงแรมมักจะจัดการให้เดินทางด้วย Speed boat หรือ Sea plane ส่วนตัว ไปถึงที่พักเลย สะดวกโยธิน เพราะมาตั้งบูธรอนักท่องเที่ยวกันถึงสนามบิน เพื่อความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยว แต่ค่าใช้จ่ายก็แพงตามไปด้วยเช่นกัน
Tip : การจ่ายด้วยเงิน MVR จะทำให้เสียเงินน้อยกว่าจ่ายด้วย dollar ค่ะ แลกไว้สักหน่อยก็ดีนะคะ เงินเค้าสวย
Sim เล่นเนท เราซื้อที่สนามบิน ออกจากสนามบินแล้วเดินไปทางขวามือจะมีร้าน Dhiraagu สีแดงๆ ราคาซิม คือ $22
สัญญาณค่อนข้างโอเค check in กลางทะเลได้ ไปหลายๆ เกาะ ก็มีสัญญาณตลอดมา 4 วัน ก็เปิด hot spot ให้เพื่อนเล่นได้ตลอด แต่พอดีไม่ได้ดูรายละเอียดมาว่า ซื้อแบบถูกกว่านี้ได้หรือเปล่า แต่เจ้าหน้าที่จะถามว่าต้องการใช้กี่วัน แล้วจะแนะนำให้ซื้อที่ราคานี้
โปรแกรมของเรา
Day 1 : BKK – Male – Huraa
Day 2 : Cinnamon Dhonveli Maldives
Day 3 : Club Med Kani
Day 4 : Huraa – Male - BKK
วันแรก เราเดินทางด้วยสายการบิน Bangkok Airways ไปลงที่สนามบินแล้วเดินทางไป เกาะ Huraa เอง ตามที่เล่าไปแล้ว คงไม่เล่าซ้ำ
เจ้าของ Guesthouse มารับเราที่ท่าเรือ Main Jetty ของเกาะ มีท่าเดียวไม่หลงแน่นอน
เอารถมารับกระเป๋า รถน่ารักมุ้งมิ้งมาก
ที่พักของเราเป็น Guesthouse เล็กๆ มีห้องน้ำในตัว สะดวกสบาย มีอาหารเช้าให้
เจ้าของ Guesthouse อยากพาเราไปชมรอบเกาะ แต่แฟนเราเมาเรือ เลยขอบาย ขอพักก่อน อาหารเย็นที่ควรจะต้องไปหาทานที่ร้านอาหาร ที่เจ้าของ Guesthouse จะพาไป ก็ไม่ได้ไป แต่จริงๆ เราก็มีอาหารที่เอามาเองจากไทย เลยไม่ได้ serious อะไร
แม้เราจะอยู่พักผ่อนกันในห้อง แต่เราก็คุยติดต่อกับเจ้าของ Guesthouse ทาง message ใน facebook บอกไปว่า พรุ่งนี้อยากไปดำน้ำ และอยากไปเที่ยว Club med Kani
ที่เกาะ Huraa เราสามารถมองไปเห็น Four season Resort
วันที่ 2 ของการเดินทาง เจ้าของ Guesthouse บอกเราว่า แขกอีกห้องนึง อยากไป Cinnamon Dhonveli Maldives จะไปด้วยมั๊ย จะได้แชร์ค่าเรือกับเค้า
เค้าคิดค่าเรือพวกเรา 30 US$ สำหรับ round trip เอาจริงๆ เราว่าแพงนะ ไปใกล้ๆ เอง แต่ค่าใช้จ่ายที่นั่น มันก็แพงเว่อร์ๆ แบบนี้อยู่แล้วมั้ง เราหาร
กับแขกอีกห้องนึง ก็จ่ายคู่ละ 15 US$
ค่า Day Pass ขึ้นไปที่ Cinnamon Dhonveli Maldives หัวละ 90 US$ รวมอาหารกลางวัน และเครื่องดื่มทุกชนิด (แอลกอฮอร์ก็รวมด้วย) ถ้า
ไม่เอาเครื่องดื่ม เอาแต่อาหารกลางวัน ก็หัวละ 45 US$
ทางรีสอร์ทอนุญาติให้อยู่ได้ตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น. จะเดินไปตรงไหน ยังไงก็ได้ ไม่ห้าม
เจ้าหน้าที่จะมี welcome drink ให้ดื่ม มีบริการผ้าเย็น แล้ว tag ผูกข้อมือว่าเป็นลูกค้าประเภท Day pass และจะอธิบายละเอียดยิบว่าอะไรอยู่ตรงไหน บริการดีมากๆ ที่สำคัญ ไม่เก็บเงินก่อนนะ ให้ไปเที่ยวจนหนำใจก่อน ค่อยมาเก็บตอนกลับทีเดียว
เราซื้อ package แบบรวมอาหารกลางวัน และเครื่องดื่มค่ะ หัวละ 90$
ไปสำรวจ Cinnamon Dhonveli Maldives กัน
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)