เที่ยวไทยฟีลนอก รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ถ้าอยากลองเที่ยวฟีลเหมือนอยู่เมืองนอก แต่ไม่ต้องบินไปไกล แค่จัดกระเป๋าแล้วไป "รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" กันดีกว่า! เส้นทางรถไฟสุดพิเศษที่พาเพลิดเพลินไปกับวิวสวย ๆ ของเขื่อนป่าสักฯ และทุ่งทานตะวันเหลืองอร่าม แถมยังเหมาะกับการไปแบบ "เที่ยววันเดียว" จบครบทั้งฟีลธรรมชาติ วิวเมืองนอก และบรรยากาศสุดชิล govivigo ขอชวนทุกคนมาเปิดประสบการณ์ทริปรถไฟเที่ยวนี้กันเลย!

เส้นทางรถไฟลอยน้ำ วิ่งผ่านธรรมชาติกลางน้ำ

รถไฟลอยน้ำ หรือชื่อเต็มคือ "รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" เป็นเส้นทางพิเศษของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เปิดให้บริการเฉพาะช่วงปลายปีถึงต้นปี (พฤศจิกายน-มกราคม) จุดเด่นคือเส้นทางรถไฟที่ดูเหมือนลอยอยู่กลางน้ำ วิ่งผ่านเขื่อนป่าสักฯ และวิวธรรมชาติรอบด้าน

เส้นทางการเดินทาง

เริ่มต้นที่ สถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) โดยมีจุดจอดรับส่งหลายสถานี ได้แก่ บางซื่อ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี และชุมทางแก่งคอย ซึ่งสามารถเลือกขึ้นรถไฟที่สะดวกได้เลย

การจองตั๋วรถไฟ

• โทร 1690 (Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย)   
• แอปพลิเคชัน D-Ticket  
• ซื้อที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ

ราคา

• ชั้น 3 (พัดลม): 350 บาท ไป-กลับ   
• ชั้น 2 (ปรับอากาศ): 620 บาท ไป-กลับ

เวลาออกเดินทาง: รถไฟจะออกจากสถานีกรุงเทพฯ ช่วงเช้า และเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ช่วงเย็น เหมาะกับการเที่ยวแบบ One Day Trip

ไฮไลท์ห้ามพลาดของทริปรถไฟลอยน้ำ

ทริปนี้มีจุดแวะพักและกิจกรรมหลากหลายที่ไม่ควรพลาด:

1. จุดชมวิวกลางสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

รถไฟจะจอดประมาณ 20 นาที ให้ทุกคนได้ลงไปเดินเล่นและถ่ายรูปวิวสุดปังของเขื่อนที่รายล้อมด้วยอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ บรรยากาศเหมือนลอยอยู่กลางน้ำจริง ๆ

2. สถานีโคกสลุง

จอดพักประมาณ 30 นาที เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้า OTOP พื้นเมือง หาของกินอร่อย ๆ และช้อปของฝากกลับบ้าน

3. สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ที่นี่เป็นไฮไลท์สำคัญ รถไฟจะจอดประมาณ 3 ชั่วโมง ให้ทุกคนได้เลือกทำกิจกรรมตามใจชอบ:

• นั่งรถรางชมวิวบนสันเขื่อน   
• เดินเล่นทุ่งทานตะวันที่บานสะพรั่ง   
• แวะไหว้ หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยว

รถไฟลอยน้ำเปิดให้บริการเฉพาะช่วง พฤศจิกายน-มกราคม ของทุกปี ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือ เดือนธันวาคม เพราะอากาศเย็นสบายและทุ่งทานตะวันบานเต็มที่

ข้อมูลเพิ่มเติม

• สถานที่ตั้ง: เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 
• การเดินทางอื่น ๆ (สำหรับคนไม่อยากนั่งรถไฟ):         
  • ขับรถส่วนตัว: ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง   
  • รถบัส: ขึ้นรถจากสถานีขนส่งหมอชิต ไปลงที่สถานีใน จ.ลพบุรี แล้วต่อรถไปเขื่อน

จบทริปแบบฟีลเมืองนอกแบบฟีลกู๊ด

หลังจากเพลิดเพลินกับธรรมชาติและกิจกรรมมากมาย รถไฟจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ช่วงเย็น พาทุกคนกลับมาพร้อมความทรงจำดี ๆ และรูปสวย ๆ จากวิวสวย ๆ ที่เหมือนอยู่เมืองนอก

รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไม่ได้มีดีแค่วิวลอยน้ำสุดตระการตา แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลายที่เหมาะกับการเที่ยววันเดียว ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ govivigo ขอแนะนำที่นี่เลย จัดกระเป๋า เตรียมตั๋ว แล้วไปสนุกกับธรรมชาติสวย ๆ ที่ไม่ไกลจากเมืองกรุงกัน!