รีวิวแรกขอเริ่มต้นกันที่โตเกียวก่อนเป็นอันดับแรก และมาในแนวมูเตลูกันสักหน่อย
เพราะเราจะพาไปศาลเจ้ากันค่ะ
โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ตอนคือ เรื่องการเรียน การเงิน และความรัก ใครที่เป็นสายมูห้ามพลาด!
ตอนแรก จะพาไปศาลเจ้าที่โด่งดัง ในเรื่องการเรียนและการสอบ จากนั้นก็จะไปกินโดรายากิแสนอร่อย ที่เปิดมาแล้วกว่า 100 ปี กันค่ะ
ต้องบอกก่อนว่าทุกที่ที่แนะนำ มาจากประสบการณ์ตรง ไปจริง ซื้อเครื่องรางจริง ลุ้นผลจริง แล้วดีจริง เลยอยากแนะนำทุกคนกันค่ะ และเป็นความเชื่อ ความสบายใจส่วนบุคคลนะคะ
ถ้าหากมีโอกาสได้แวะไปย่านอุเอโนะ แต่ไม่อยากช้อปปิ้ง อยากเดินเล่นชมบรรยากาศบ้านเมือง เราอยากแนะนำศาลเจ้าที่เดินจากสถานีอุเอโนะ ไม่เกิน 15 นาทีก็ถึง นั่นก็คือ ศาลเจ้า ยูชิมะเท็นจิน (湯島天神 Yushima Tenjin)
หากเห็นบันไดสูงๆ ก็แปลว่าถึงที่หมายแล้วค่ะ (ทางเข้ามีหลายทางนะคะ สามารถดูจากแผนที่ได้เลย เราไม่ได้เข้าจากด้านหน้าค่ะ)
ก่อนเข้าศาลเจ้าก็ต้องล้างมือทำความสะอาดกันก่อน แต่เนื่องด้วยการระบาดของไวรัสโคโรน่า จุดล้างมือจึงปิดให้บริการ
จากนั้นก็มาถึงการไหว้ขอพรกันแล้วค่ะ โดยวิธีการไหว้ขอพรจะเริ่มจาก
ค่อยๆโยนเหรียญ 5 เยนลงไป →โค้งคำนับ 2 ครั้ง→ ปรบมือ 2 ครั้ง→ อธิษฐาน→แล้วก็คำนับอีกที
ทำไมถึงต้องเป็นเหรียญ 5 เยน ?
จริงๆแล้วไม่ได้มีการกำหนดไว้ว่าจะต้องเป็นจำนวนเงินเท่าไร หรือเหรียญอะไร แต่ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า 5 เยน ไปพ้องกับคำว่า (ご縁) มีความหมายในเชิงโชคชะตา, โอกาส หรือความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นความหมายที่ดี
ศาลเจ้าแห่งนี้ดังมากในเรื่องการขอพรด้านการเรียน การสอบ เมื่อดูจากป้ายเขียนขอพร (絵馬 หรือ Ema หรือ เอะมะ) เกือบทุกป้ายจะเขียนว่า 合格 ซึ่งหมายถึงการสอบผ่าน มีทั้งเขียนขอให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ขอให้สอบเข้าโรงเรียนมัธยมได้ 合格祈願 (Goukaku Kikan โกคะคุ คิคัง) และเมื่อสอบผ่านแล้วก็มาเขียนขอบคุณที่ทำให้สอบผ่านอีกด้วย 合格御礼 (Goukaku Orei โกคะคุ โอะเร) ดูจากจำนวนแล้วมีไม่น้อยเลยจริงๆ
แล้วก็มาถึงสิ่งที่ทุกคนรอคอย จุดขายเครื่องรางนั่นเองค่ะ📿🔮
อย่างที่บอกไปว่าศาลเจ้าแห่งนี้ดังเรื่องการเรียน การสอบผ่านมากๆ ทำให้เครื่องรางส่วนมาก จะเป็นไปในแนวการเรียน การสอบ ด้านอื่น ๆ ทั้งด้านความรัก การเงิน การหางาน สุขภาพก็มีเช่นกัน เครื่องรางด้านการเรียน ไม่จะเป็นเครื่องรางแบบพก แบบวางไว้ที่บ้าน เป็นรูปกระเป๋านักเรียน หรือดินสอ ปากกาที่ไว้ทำข้อสอบ มีให้เลือกกันตามความชอบเลยค่ะ
ตอนเราสอบ ได้ไปซื้อเครื่องรางตัวนี้มาค่ะ (มีสีขาว แดง ม่วง) เราเลือกขาว เพราะคิดว่าจะได้สอบผ่าน และชนะอย่างใสสะอาด (เชื่อมโยงเก่งจริงๆ ฮ่า)
ตัวเราเองและเพื่อนได้มีโอกาสไปศาลเจ้าแห่งนี้ เมื่อตอนสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เราว่า อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าได้มาไหว้แล้ว จะได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง (ฮ่าๆ) ซึ่งผลปรากฎว่าสอบผ่านกันทั้งคู่ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตั้งใจอ่านหนังสือ หรือเครื่องรางและศาลเจ้าช่วยเราไว้
ส่วนอันนี้เป็นรูปหน้าจอโทรศัพท์ของเพื่อนเราค่ะ พกเครื่องรางอย่างเดียว กลัวไม่ขลัง 😆ต้องไปกับเราทุกที่ ผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังใช้อยู่
ส่วนอันนี้ซื้อไปฝากพี่สาวที่กำลังจะสอบค่ะ เป็นเซ็ตปากกาดำ และดินสอกด เนื่องจากว่าที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้ปากกาน้ำเงินกัน เลยได้มาเป็นปากกาดำค่ะ (เอกสารทางราชการ การกรอกเอกสารต่างๆ ใช้ปากกาดำหมดค่ะ)
รวมเครื่องรางที่ขายดีของศาลเจ้า http://www.yushimatenjin.or.jp/pc/kigan/jyuyohin.htm (ภาษาญี่ปุ่น)
ส่วนน้องวัวหน้าตาน่ารักตัวนี้ ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่า หากมีอาการป่วยที่ส่วนใดของร่างกาย ให้ลูบส่วนนั้นของวัว อาการก็จะดีขึ้น
ช่วงนี้เราปวดเอว ปวดหลัง เลยลองลูบ และขอพรให้หายจากอาการปวด จะหายหรือไม่หายอย่างไร ก็ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ
สวนญี่ปุ่นเล็กๆในศาลเจ้า นั่งพักให้หายเหนื่อย แล้วไปลุยกันต่อค่ะ
เมื่อไหว้ขอพรเสร็จแล้ว เดินต่อไปอีกประมาณ 6 นาที ก็จะเจอ ร้านขายขนมสไตล์ญี่ปุ่น ที่เราอยากแนะนำ นั้นก็คือ ร้านอุซากิยะ (うさぎや Usagiya) ซึ่งแปลได้ว่า ร้านกระต่าย เปิดมาตั้งแต่ปี 1913 อายุกว่า 100 ปี ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ้นญี่ปุ่น
สินค้าก็จะเป็นขนมญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น โดรายากิ, มันจู, อุซากิมันจู(มันจูรูปกระต่าย), ขนมอบ, วุ้นถั่วแดง และอีกมากมาย แต่ที่ดังที่สุดก็คือ โดรายากิ ขนมที่โดราเอมอนชื่นชอบนั่นเอง เราเองก็ได้ซื้อโดรายากิกลับมาด้วย ตอนรับมารู้สึกได้ว่ายังอุ่นๆอยู่เลย
ตัวแป้งนุ่มมาก ไส้ก็หวานกำลังดี อร่อยมากๆ
ราคาชิ้นละ 205 เยน(รวมภาษีแล้ว)
สามารถเก็บได้ 2 วัน แต่แนะนำให้รับประทานให้หมดภายในวันที่ซื้อจะอร่อยกว่า
ส่วนผสม น้ำตาล แป้งสาลี ถั่ว ไข่ น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม และผงฟู
รับเฉพาะเงินสด
เวลาเปิดปิด 9:00-18:00
หยุดทุกวันพุธ (วันหยุดอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ )
http://www.yushimatenjin.or.jp/pc/index.htm
ขอให้ทุกคนโชคดี
แล้วเจอกันใหม่กับศาลเจ้าด้านการเงิน และความรักนะคะ
แต่ถ้าใครรอไม่ไหว สามารถตามไปอ่านได้ที่ https://www.japankuru.com/ta/culture/e2799.html มีครบแล้วทุกตอนค่ะ
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)