รีวิว

เกาหลีสีชมพู [1-6 April 2018] 🌸🌸

South Korea
วันออกเดินทาง 01/04/2018
วันเดินทางกลับ 06/04/2018
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 2 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 20,001 - 30,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม First time in Seoul
177K views
วันที่
1

อันยองงงงงง~ เกาหลีเดือนเมษา ทริปนี้เป็นการมาเที่ยว ตปท ครั้งแรกของเรา ซึ่งจากการหาของมูลต่างๆนาๆ ตามกระทู้ รีวิวต่างๆ น้านนนน ทำให้เกิดความกังวลในจิตใจ นั่นก็คือ ตม นั่นเองจ้า! โดยทริปนี้เรามากับแฟนสองคน ต่างก็กลัวว่าจะไม่ผ่าน ฮ่าาาาา ช่วงที่เข้าแถวรอตรวจนั้น ความรู้สึกนี่คือแบบ ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น ปะปนกันไปหมด แล้วยิ่งแถวข้างๆมีคนโดนเรียกเข้าห้องเย็นด้วยยิ่งกลัวเลยจ้า แต่สุดท้ายแล้วพวกเราก็ผ่าน ผ่าน ผ่านด่านแล้วโว้ยยยยย 😂

ไปค่ะๆ เดินทางเข้าเมือง โดยเรานั้นเลือกเดินทางด้วยรถไฟ ปู้นๆ ตั๋วที่เราจับจ่ายมานั่นเป็นตั๋วแบบเที่ยวเดียว เพราะหาซื้อบัตร t-money ในสนามบินไม่ได้เลยหมดทุกร้านจ้า

แล้วเราก็มาถึงแล้วจ้า โซล จ๋าาาาาา หาซื้อบัตร t-money ก่อนเลย พอได้บัตร t-money แล้ว ไปค่ะ ไปค่ะ ไปที่พักกัน

โดยทริปนี้เราเลือกพักที่ Hostel Korea 11th Changdeokgung ที่พักนี้จะอยู่ใกล้กับพระราชวังชางด๊อก และป้ายรถเมล์ชางด๊อกกุงด้วยค่าาาา ( ภาพที่พักเราไม่ได้ถ่ายมาค่ะ ) ถึงที่พักฝากสัมภาระเสร็จเรียบร้อย เราก็หาของกินมื้อแรกของวัน เดินไปตามซอกซอย

ก็มาเจอร้านนี้ " Bukchon hanok jib korean restaurant "

ความหิวโหยของทั้งคู่ มื้อนี้จัดเบาๆ อาจุมม่าร้านนี้บริการดี ใจดี ทุกระดับประทับใจจริงๆ

กินอิ่มแบบแน่นๆ แล้วก็ไปเที่ยวได้ โปรแกรมวันนี้ก็ไม่รู้จะไปไหน เราเลยเลือกนั่งรถเมล์ไป ฮานึลปาร์ค และมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา

การเดินทางขึ้นไปบนฮานึลปาร์คนั้นสามารถขึ้นไปได้ 2 วิธี นั่นคือ เดินขึ้น หรือ นั่งรถ โดยพวกเราเลือกเดินขึ้นค่ะ

ระหว่างก็เจอดอกแคนารี อย่ารีรอ แชะๆๆ

ระหว่างทางเดินขึ้น วิวสวย อากาศดีไม่มีแดด เดินสบายเลยค่ะ

ถึงแล้วจ้าาาาาา ฮานึลปาร์ค ของเรา ไปหาทุ่งหญ้าแห้งๆ กันนนนน โก โก โก

พอขึ้นมาถึงเท่านั้นแหละ ภาพในหัวที่แบบทุ่งหญ้า ที่ตามอ่านรีวิวมาน้านนนนนน พังโครมเลยจ่ะ แล้วตัดภาพมาที่ตรงหน้าเรา จ้าาาา เหลือแต่ตอ กับกองหญ้าที่พร้อมจะให้น้องวัวมากิน

ในเมื่อขึ้นมาแล้วก็พักขา ถ่ายรูป ชมวิว กันไปเพลินๆ

หลังจากถ่ายรูป นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ลงค่ะ แต่ขาลงเราเลือกนั่งรถลง เพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ ฮ่าาาาาาาาา

ไปต่อกันที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาจ้าาาาา เรามาถึงก็เย็นๆ คนก็จะเยอะหน่อย ถึงปุ๊บก็หาของกินปั๊บ

กินลองท้องกันจนจุกแล้วก็ได้เวลาเดินย่อย อยากจะบอกตรงโซนมหาลัยนี่โอปป้างานดีมากเว่อ มองเพลินไปอี้กกกก 😍
ไปค่าาา ไปถ่ายรูปกัน มาถึงพลาดไม่ได้เลยตรงนี้ เหมือนเป็นแลนมาร์คของที่นี่เลยอ่ะ แบบถ้ามาแล้วไม่ได้ถ่ายตรงนี้นี่เหมือนมาไม่ถึง ฮ่าาาาา

ถ่าย ถ่าย ถ่าย แล้วก็ถ่าย แชะๆๆๆ

วันที่
2

วันนี้เราจะไปเมืองทางใต้ของเกาหลี เพื่อไปหานุ้งซากุร้าาาา นั่นเอง ซึ่งเมืองที่จะไปมีชื่อว่า เมืองจินเฮ

การเดินทางเรานั่งรถไฟข้ามเมือง KTX ซึ่งเราจองตั๋วแบบ One day pass ต่อคนก็ 72,000 วอน ตีเป็นเงินไทยก็ประมาน 2,000 กว่าบาท วันนี้เราจะอยู่ที่เมืองนี้กันทั้งวันเลยค่าาาาา ส่วนรอบเวลา ไปกลับก็ตามรูป ข้างล่างเลยนะคะ โดยเราจะขึ้นรถไฟ จากสถานี Seoul Station ไปเมือง Masan Station เมื่อลงรถไฟฟ้า ออกจากสถานีเดินตรงไปเรื่อยๆ เราก็จะเห็น รถเมล์คันสีส้มๆ ในจุดๆนี้เราใช้ App Naver Map ในการดูเส้นทางที่เราจะไปทั้งหมดช่วยได้มากอันนี้แนะนำเลยจ้า เราก็นั่งรถชมวิวสองข้างทาง ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเห็นดอกไม้สีชมพู บานสะพรังไปทั้งต้น

ในช่วงต้นเดือนเมษายน จะมีงานชมดอกพ็อตกตที่จินเฮ(Jinhae Gunhangje Festival) ชมพูกันทั่วทั้งเมืองเลยค่าคุณขาาาาา
ที่งานนี่มีแผ่นพับเป็นภาษาไทยแจกฟรีด้วยเด้ออออ ดีงามไปอีกอ้ะ

ซากุร้าาาาาา เต็มสองของทาง ซึ่งช่วงที่เราไปนี่คือบานเกือบ 100% เลยเด้ออออ แบบยังไม่ถึงตรงจุดที่มีงานก็บานแน่นซะใจแล้วอ้ะ 🤩🌸

ในที่สุดจากการเดินลัดเลาะไปมา ก็มาถึงจุดจัดงานแล้วจ้า เอ้อจะบอกว่าเรามาถึงช่วงเช้า คนจะยังไม่เยอะ ถ่ายรูปสวยเลยหล่ะ

อีกอย่างช่วงเช้าๆ แดดอ่อนๆ ภาพที่ได้ก็จะฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งเหมียวมากเลยแหละ

แต่ถ้ามาช่วยสายหล่ะก็ ทัวร์จีนเอย ฝูงชนเกาหลีเอย แน่นเลยจ้า คนนี่หยุบหยับมาก เรานี่คิดในใจดีนะที่ตูมาก่อน ยิ้มมุมปากไปหนึ่ง หึหึหึ

ที่งานนี้จะมีการจัดแสงสีตอนกลางคืนด้วยเน้อออ

และระหว่างรองานแสงสีช่วงเย็น บ่ายวันนี้เราก็จะไปจุดที่จัดงานดอกซากุระอีกจุดนึง ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเก่า

กว่าจะมาถึงตรงนี้ก็บ่ายคล้อยแล้ว และก็เป็นไปตามคาด มวลชนคนมหาศาลจ้าาาา

ตรงจุดนี้ก็จะมาขบวนรถไฟจอดอยู่ 1 ขบวน ไว้ให้ให้รูปและก็ตามภาพเลย เราไม่สามารถแทรกกายเข้าไปได้จริงๆ จะมีก็ด้านข้างขบวนอ่ะ ที่คนแบบบางตาให้พอได้แชะภาพได้ ยืนร้องไห้แพร้บ 😭

ได้เวลาหลบฝูงชนมาหาของหม่ำๆ

เมนูนี้ไก่ซอสเผ็ด แนะนำเลยจ้าาา เผ็ดแบบ โคตรบิดาโคตรมารดาเผ็ดอ่ะ ฮ่าาาาา
กินอิ่มแล้วก็เดินเตรดเตร่ หาที่นั่งรอเวลา

เดินไปก็เจอน้องหมา ที่จูงตัวเองเดิน น่ารักกกก

เดินไปถ่ายรูปไป อากาศก็ดี๊ดี 😍

เดินไปเดินมาก็เจอมุมสงบๆ บรรยากาศแบบดีอ้ะ ลมพัดๆ กลีบดอกซากุระปลิว ฟีลแบบในซีรี่ย์เล้ยยย
พอเย็นเราก็นั่งรถกลับมาที่เดิมเมื่อตอนเช้า เพื่อมาเก็บภาพแสงสีของงานตอนกลางคืน

แล้วเราก็ต้องบอกลาจินเฮ เพื่อนั่งรถไฟกลับโซล

วันที่
3

วันที่สามแล้วจ้าาาา วันนี้เราจะไปกันที่ Korean Folk Village อารมณ์แบบตามรอยซีรี่ย์ย้อนยุกเลยจ้าาาา ซึ่งการเดินทางเราก็เลือกเดินทางด้วยรถเมล์เช่นเคย

มาถึงก็ซื้อบัตรเข้าชม จับจ่ายเรียบร้อยแล้วก็ลุยโลดดดดด

บรรยากาศด้านหน้า ช่วงเช้าๆ คนจะน้อย ถ่ายรูปสวยเลยหล่ะทุกโค้นนน

อากาศวันนี้ก็จะครึ้มๆ เย็นสบาย
ที่นี่จะมีแสดงแบบโบราณโชว์ด้วยนะคะ

โชว์สุดท้ายของรอบเช้าจะเป็น พิธีแต่งงานแบบโบราณ ดูแล้วก็ได้อารมณ์เหมือนที่เคยดูในซีรี่ย์เลยอ่ะ

หลังจากดูโชว์การแสดงต่างจบ พวกเราก็เดินถ่ายรูปตาม หมู่บ้านจำลองต่างๆ ซึ่งมันกว้างมากกกกกก

ถ่ายๆๆ แล้วก็ถ่าย ถ่ายไปเรื่อย แบบคนน้อยๆ นี่มันดีจริงๆ

เดินเข้าไปเรื่อยๆ ด้านในก็จะมีเหมือนพิพิธภัณฑ์ ให้ชม ข้าวของโบราณต่างๆ นาๆ วิถีชีวิแต่ละยุคสมัย

ได้เวลาหาของกินแล้วจ้าาาา ราคาอาหารที่นี่จะเป็นแบบแรกคูปองนะคะ

กินคาวเสร็จ ก็ต้องตามด้วยของหวานสิ ถึงจะครบสูตร
อิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินย่อยต่อ ไปค่ะๆ

แต่ละจุดก็จะมีป้ายบอกไว้ว่าใช้ถ่ายทำซีรี่ย์เรื่องใดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาเกาหลี เราก็เลยทำได้แค่ดูภาพ แล้วก็อ่อออออออ เรื่องนั้นเรื่องนี้ นี่เอง ฮ่าาาาา

เจอน้องหมาสีขาวสวย แต่ฉันอ่านชื่อน้องไม่ออก 😂

นั่นนกเป็ดน้ำใช่มั้ยนะ...

เดินชมทุกจุดจริงๆ ผ่านตรงไหนแวะตรงนั้น

และนี่คือหนึ่งจุดที่ใช้ถ่ายเรื่องแดจังกึมมมม

จบแล้วสำหรับวันนี้ ก็นั่งรถกลับโซลไปเดินเมียงดงชนไหล่โอปป้าต่อ ❤

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง