ประเดิมออกเดินทางจากกรุงเทพวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 6.30 ไปถึงวัดแรกที่เราตั้งใจอยากจะไปคือพระพนันเชิงวรมหาวิหาร เราสองคนไปถึงที่วัดกันช่วงประมาณ 7 โมงครึ่ง คนยังน้อยอยู่ไหว้องค์หลวงพ่อสบายมากเลย ไม่ต้องไปเบียดกับใคร (เหตุผลของการตื่นเช้ามาวัดของเราสองคน) ไหว้พระขอพรกันเสร็จเราก็เดินทางกันต่อไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล เข้าวัดมากระแสละคร บุพเพสันนิวาส ยังคงเนืองแน่น มีนักท่องเที่ยวใส่ชุดไทยสไบเฉียงมาสวยๆหลายคนเลย ในใจก็แอบคิดว่าอยากใส่บ้างจังแต่ไม่ได้เตรียมหาซื้อชุดเลยคิดว่าไม่เป็นไรหรอก..(ออกแนวปลอบใจตัวเอง) แว๊บนึงในหัวก็บอกว่าชุดเราที่ใส่มาก็เว่อร์วังพอใส่ถ่ายได้รูปสวยๆบ้าง ก็เล่นเดินเข้าไปไหว้พระทำบุญอย่างสบายอกสบายใจ
ไหว้พระที่วัดใหญ่เสร็จเราก็ไม่รอช้าเดินทางตามรอยละครไปวัดไชยวัฒนาราม....ช่วงเวลาถึงวัดไชยฯ ราวๆ 9 โมงนิดๆ รถเริ่มเยอะตรงทางเข้า แว๊บแรกที่มองดูระหว่างทางเข้า มองซ้ายมองขวา...วัดอยู่ด้านซ้าย ส่วนด้านขวา มีร้านเช่าชุดเพียบบบบ!!! ไม่รอช้ารีบบอกสามี เดี่ยวขอลงไปดูร้านเช่าชุดก่อนน่ะอยากใส่ เดินไปเดินมาสัก2นาที เลือกร้านแรกนี่แหละใหญ่ดี ชุดและจิวเวลรี่หลากหลายดี ไม่รอช้าเลยจ้า คำถามแรกที่เข้าไป..เจ้าของร้านถามชอบชุดแบบไหน สีอะไรคะ ตอบไปอย่างชัดเจน ชมพูค่ะ เจ้าของร้านให้ พนง.มาจัดชุดให้ แต่งเสร็จมองไปรอบข้างสีสันชุดคนอื่นแบบอลังการเชียวมองมาชุดตัวเอง...จืดไปไหมน๊าาา พนง.ในร้านบอก...ผ้าพื้นที่ใส่แบบนี้มีผืนเดียวในร้านนะค่ะ สวยแล้วค่ะ เราก็เลยแบบโอเคสวยก็สวย(เรื่องของเรื่องคือไม่อยากไปเปลี่ยนชุดอีกรอบ มันร้อนเจ้าค่ะ) แต่งเสร็จมีบริการทำผมให้ด้วย เก๋ไก๋สไลเดอร์มากค่ะ ตอนทำผมพี่ พนง.บอกชุดที่เช่าใส่ได้ทั้งวันเลยนะค่ะ มาคืนได้ถึงช่วง2ทุ่มเงินโอ้โหดีงามมม!!! อุ๊ยลืมบอกราคาเช่าชุด 200บาทเองจ้าา ร่มเช่าเพิ่มได้เลยเบาๆจ่ายไป 50บาท
แต่งตัว ถักผมทรงง่ายๆเสร็จได้เวลาแต่งองค์ทรงเครื่อง...บอก พนง. พี่ประโคมสร้อย กำไล มาให้เต็มที่เลยนะค่ะถ่ายที่วัดที่เดียวค่ะ สวยๆไปเลยทีเดียวจบ แต่งออกมาเสร็จ...เฮ้ยยยยยยย แม่นางอโยธยาเชื้อสายจีน มาเองเจ้าค่ะ!!! แต่งตัวเสร็จก็เดินเข้าไปถ่ายรูป โชคดีของเราคือฝนไม่ตก...แต่นอกจากภาพสวยๆแล้วได้ของแถมคือสีผิวเพิ่มความเข้มมาหลายระดับ อิอิ พอไหว้พระ ถ่ายรูปเสร็จ มานั่งดูรูป เฮ้ย....รูปสวยมาก แต่แดดขนาดนี้แม่นางลงไปได้ยังไง แต่ไม่เป็นไรได้รูปสวยๆกลับมาเพียบเลย
พอสายหน่อยเราก็เริ่มหิวล่ะเลยเลือกไปทานข้าวร้าน The Summer House เมนูอาหารก็หลากหลายดี รสชาติถือว่าใช้ได้เลยโดยเฉพาะ........สปาเกตตีต้มยำกุ้ง รสชาติมันดีมากกก!!! ทานอาหาร ขนมเสร็จก็แวะถ่ายรูปที่ร้านนิดหน่อย เหลือเวลาว่างเราไปเที่ยวกันที่หมู่บ้านญี่ปุ่น ก็ได้ความรู้ในสมัยก่อนติดมาบ้างนิดหน่อย เพลินๆดี
บ่ายๆแดดออกบวกตื่นแต่เช้าเหมือนร่างกายต้องการพักร่างได้เวลา Check-In โรงแรมที่จองไว้พอดีเราเลยไม่รอช้าเดินทางเข้าพักกันที่ Sala Ayutthaya ที่พักสวยมากกกก!!! มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์มาก ชอบโรงแรมในเครือนี้หลายที่มาก ห้องพักเราอยู่ชั่น2วิวแม่น้ำตรงบ้านเป็นวิววัดพุทไธศวรรย์ วิวสวยมากทั้งกลางวันกลางคืน
ตกเย็นวันนี้เราฝากท้องกันที่ห้องอาหารของโรงแรมเลย โต๊ะที่เราได้นั่งก็วิวสวยมาก ทานไปเรือก็ล่องผ่านเป็นระยะๆ อาหาร และ เครื่องดื่มก็มีหลากหลายให้เลือก ทานอาหารที่นี่ถือว่าสะดวกเรามากเพราะเดินลงมาก็ห้องอาหารเลย นั่งทานอาหาร ชิวๆ กันเสร็จก็ย่อยกันสักนิดโดยการแว๊บไปถ่ายรูปรอบๆโรงแรม ถึงเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริงก็ขึ้นห้องแช่น้ำ นอนดูวิวสวยๆ ยามค่ำคืน
ตื่นเช้ารับแสงอาทิตย์ของวันใหม่ แว๊บแรกสิ่งที่สมองสั่งการคือเปิดม่านรับอรุณจ้าาา....บรรยากาศช่างสวยงาม มีธรรมชาติล้อมรอบ บรรยากาศเก่าๆแต่มีความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเก่า วิวตอนเช้านี่ก็ดีงามอย่าบอกใคร ต้องมาฟินกันเอาเองน๊าาา ได้เวลาอันควรเราก็อาบน้ำแต่งตัวลงมาทานอาหารเช้า อาหารเช้าที่นี่เป็น A La Cart เลือกได้ตามชอบใจ แถมยังมีไลน์อาหารให้ตักอีกด้วยอาหารเพียบพร้อมดีมาก!! ทานอาหารเสร็จก็นั่งชิวๆกันสักพักตามสไตล์วันหยุด
ทริปอยุธยา: เดินทางสะดวกไม่ไกลจากกรุงเทพ วัดวาอารามก็เยอะมากมาย อาหารการกินก็หลายหลาย แถมโรงแรมที่พักก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย สุดท้ายท้ายสุด ก็อยากจะบอกว่าอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน ในความรู้สึกอยากจะบอกว่ายิ่งเก่ายิ่งสวย ยิ่งเก่ายิ่งชิค และยังคงความคลาสสิคแบบไทยๆ บอกตรงๆว่าหลงรักอยุธยาเข้าแล้วละสิ ไว้มีเวลาว่างจะแว๊บมาชิวที่นี่บ่อยๆน๊าาา หวังว่าคนอ่านคงชอบรีวิวนี้นะค่ะ
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)