รีวิว

เที่ยวดานังเวียดนาม (Ba Na Hills) 3 วัน 2 คืน

ดานัง
วันออกเดินทาง 14/07/2017
วันเดินทางกลับ 16/07/2017
จำนวนผู้ร่วมทริป ผู้ใหญ่ 4 คน
งบประมาณเฉลี่ยต่อคน 5,001 - 10,000 บาท
บันทึกเพิ่มเติม พัก Mercure Danang French Village Bana Hills + ค่า Cable Car จ่ายแยก สามารถเข้า Fantasy Park , Le Jardin Garden , Debay Wine Cellar ได้ฟรี
88K views
วันที่
1

“Ba Na Hills” เมืองดานังแห่งนี้ ถือเป็นที่พักตากอากาศดีที่สุดของเวียดนาม และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมนั่งกระเช้าเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติระหว่างทางไปเทือกเขาบาน่า โดยกระเช้าของที่นี่ได้รางวัล Guinness World Records ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดถึง 5,042 เมตร (ไม่หยุดระหว่างทาง) และกระเช้าที่สูงที่สุด 1,291 เมตร
ด้านบนมีทั้งโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สปาร์ บาร์ สวนสนุก วัด สวนดอกไม้ พูดง่ายๆก็เป็นเมืองเมืองนึงนั่นเอง โดยสิ่งก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19
ทริปนี้เดินทางทั้งหมด 4 คน วันที่ 14-16 ก.ค. 2017 (หน้าฝน รูปมันจะครึ้มๆหน่อย)

จากสนามบินดานัง นั่งแท็กซี่มาถึงสถานีกระเช้าด่านล่าง ชื่อ Station 5 ซึ่งเป็น Reception ของโรงแรม Mercure danang french Village Ba Na Hills ให้ทำการเช็คอิน พนักงานจะให้คำแนะนำต่างๆ และพาขึ้นกระเช้าที่ยาว 5 กิโลกว่าและสูงที่สุด แบบไม่มีจุดพัก

วันที่เราไปนั่งฝนตกจ้า ในกระเช้ามีเรา 4 คน กับครอบครัวเวียดนาม พ่อ แม่ ลูก 2 คน คนโตอายุประมาณ 7 ขวบ คนเล็กประมาณ 1 ขวบกว่า เนื่องจากฝนตกลมค่อนข้างแรง กระเช้าเลยแกว่งๆ ในกระเช้าก็ไม่ค่อยมีอากาศ ทำให้เวียนหัวมากทีเดียว แม่ชาวเวียดนาม กับลูกสาวคนโต ถือถุงพลาสติกคนละใบ อ้วกจนสุดทาง ประกอบกับลูกคนเล็กก็ร้องงอแง กระเช้าก็ต้องวิ่งๆ หยุดๆเพราะลมแรง หวาดเสียวมากมาย แต่วิวระหว่างนั่งกระเช้าสวยมากนะ ตามรูป

หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานมาหลายสิบนาที ในที่สุดก็มาถึง

จากนั้นเราต้องเอานามบัตรไปแลกคีย์การ์ดสำหรับเข้าห้องพัก โดยเข้าไปหา Reception ของโรงแรมในตึกตามรูปนี้

ในส่วนของห้องพัก จะกระจายกันอยู่ตามตึกใน French Village พนักงานจะพาเราไปส่งที่ห้องพัก ซึ่งพนักงานบางคนจะพูดภาษาไทยได้

มาชมภาพรอบๆเมืองกันค่ะ รูปเยอะมากจริงๆ นี่คัดมาแค่บางส่วน

ไฮไลท์อีกอย่างนึงที่ไม่ควรพลาดคือเล่น Alpine Coaster นั่งได้ 2 คน มีคันบังคับอยู่ด้านซ้าย
ไปข้างหน้าได้ดันคันโยกไปด้านหน้า ถ้าจะชะลอหรือเบรกให้ดันไปด้านหลัง
ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพในขณะเล่น โกโปรก็ไม่ได้ แต่เค้าจะมีตั้งกล้องไว้ถ่ายให้ แล้วเอาภาพมาขาย
แนะนำให้ซื้อเถอะค่ะ ภาพสวยและเท่มาก ราคาภาพละ 60,000 ดอง (3 USD) เท่านั้น

วันที่
2

เราจะนั่ง Cable Car สายสั้นๆ จาก Morin Station (จุด 17) ลงมาที่ Debay Station (จุดที่ 7) กระเช้ากลมๆสีเหลือง

ถึงแล้ว

จากนั้นนั่งรถราง (Funicular) แล้วเดินต่อไปที่สวน

ตรงนี้จะมี Debay Wine Cellar เป็นพิพิธภัณฑ์ไวน์เล็กๆ เดินเข้าไปชมด้านในจะมึดๆหน่อย

เมื่อชมพิพิธภัณฑ์จนสุดทางแล้ว ก็จะเจอกับร้านสำหรับนั่งจิบไวน์ชมสวนสวยๆ
แก้วนี้เรียกว่า Sangria (ไวน์พั้นซ์) ราคา 85,000 ดอง แก้วใหญ่นะคะ
ส่วนผสมมี น้ำกับเนื้อผลไม้ ใส่ไวน์แดงลงไป ใส่เซเว่นอัพ น้ำแข็งเล็กน้อย รสชาติดี เบาๆ

ส่วนแก้วนี้จำชื่อเต็มๆไม่ได้ แต่เป็นไวน์เบอรี่ ไวน์ล้วนๆเลยจ้า แก้วเล็กๆ แรงนิดหน่อย ราคา 70,000 ดอง

จิบไวน์เสร็จก็เดินไปชมสวนลาเวนเดอร์ต่อ ช่วงนี้ฝนตกเบาๆ แล้วก็หยุด ทำให้เกิดหมอกบางๆ บรรยากาศฟินๆ

ถึงแม้ว่าฝนจะตกก็ไม่ต้องกังวล ที่นี่มีสวนสนุกในร่ม ซึ่งถูกขนานนามว่า ดิสนี่แลนด์เวียดนาม
ซึ่งจริงๆแล้วเวียดนามไม่มีดิสนี่แลนด์ แต่สวนสนุกที่นี่ก็น่าสนใจมากทีเดียว
ที่สำคัญคือ เข้าฟรี และเครื่องเล่นส่วนใหญ่ฟรี
ที่เสียเงินก็เช่นตู้เกมส์ ตู้จับตุ๊กตา เกมส์พวกปาลูกบอลยิงปืนคล้ายๆงานวัด
ข้างในจะมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง คล้ายๆของมาดามทุสโซ แต่ต้องเสียเงินเพิ่ม
ด้านในจะมึดๆหน่อย มีหลายชั้น ได้รูปมาเล็กน้อย นักท่องเที่ยวเยอะ

ตัวอย่างเครื่องเล่น เช่น Tower Drop ,บ้านผีสิง ,เกมส์4D , 5D เยอะแยะมากมายเล่นกันไม่หวาดไม่ไหว อยากให้ลองไปดูเอง

ปิดท้ายด้วย Tower Drop พอออกมาจาก Fantasy Park ก็ต้องตะลึงกับบรรยากาศแบบ Silent Hills

วันที่
3

วันรุ่งขึ้นเราต้องเช็คเอ้าแต่เช้า ฝนตกหนักมาก แต่กระเช้าก็ยังทำงานอยู่ เราแจ้งพนักงานให้ช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้
กระเช้ารอบแรกเริ่มวิ่งประมาณ 7.30 แต่เป็นคนละสายกับตอนขึ้นมา เพราะกระเช้าเส้นยาวจะเริ่มวิ่งตอนเที่ยง
พนักงานถือกระเป๋าเดินนำเราไปที่สถานี GA LOUVRE (จุดที่ 20) นั่งกระเช้าไปพร้อมเราจนถึงครึ่งทาง
ต้องต่อกระเช้าอีกตัวหนึ่งลงไปด้านล่าง แล้วพนักงานก็ปล่อยให้เราลงไปเอง พอลงไปข้างล่างจะมีพนักงานมารับช่วงต่อ
พาเราไปขึ้นรถกอร์ฟเพื่อกลับขึ้นไปสถานนีที่ 5 (Reception ของโรงแรม) ซึ่งมีแท็กซี่รออยู่ แท็กซี่พาเราไปส่งที่สนามบินโดยสวัสดิภาพ
ราคาไม่ต่างจากขามา แต่เพิ่มค่าเข้าสนามบินอีก 10000 ดอง

ใครอยากชมบรรยากาศเราก็เอาวิดีโอมาฝาก เชิญชมจ้า
จบการรีวิว ขอบคุณที่ติดตาม

ความคิดเห็นทั้งหมด (0)

    รีวิวที่คล้ายกัน

    ทริปที่ใกล้เคียง

    ไอเดียที่ใกล้เคียง