โซลโซโซไซตี้ #seoulsosociety

Team seoulsosociety พวกคุณได้เตรียมร่างกายทยานสู่ประเทศเกาหลี ณ ดอนเมืองซิตี้ กันเป็นที่เรียบร้อย เวลาบินจริงคือ 02:20 น. วันที่ 22 มีนาคม 2559 แต่พวกเอ็งมานั่งกินขนมก่อนโหลดกระเป๋านานถึง 4 ชั่วโมง นั่งรอไปนอนรอไปก็ดีนะ แปปเดียวก็ได้เวลาบินละ

พวกเราทั่ง 7 บินด้วยสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ (เพราะถูกและดีมีโปรเด่น) ทั้งไปและกลับ เฉลี่ย คนละ 9,xxx บาท รวมค่าใช่จ่ายทั้งหมดแล้วยกเว้นอาหาร

5-6 ชม. ก็แลนดิ้งถึงอินช้อนอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ตแล้วหละ (แต่ก็แอบเมื่อยตูด แลปวดคอ) ตรงไปขึ้น R-rax กันเลย เรื่องตม.ของเกาหลีพวกเราก็ไม่มีใครได้พบเจอปัญหานะ ผ่านทุกคน (ถึงแม้พาสปอร์ตจะขาวโพลนก็ตาม) 😁

ใช่เวลาราวๆ 50 นาที ก็เดินทางกันมาถึงหน้าที่พักของพวกเรา พวกเราพักอยู่ย่านฮงแดนะ ได้ที่พักมาจากพี่พี่ของพวกเราที่เค้าเคยออกเดินทางมาแล้ว(ผลพลอยได้ที่ดี) ซับเวย์สายสีเขียว สถานีฮงแด ทางออก 1

วันแรก ณ โซล พวกเราจะพาไปดูบรรยากาศของฮงแด , เขาฮานึล , และม.อีฮวา
ออกสำรวจทีแรกก็แถวที่พักเรานี่หละ ฮงแด หรือ หน้าม.ฮงอิก ยูนิเวอร์ซิตี้ ข้ามทางม้าลายไปแปปเดียว

บรรยากาศช่างดีกับใจพวกเราเหลือเกิน 🤗 ทั่งโซลเวิร์ลคัพปาร์ค ที่เป็นทางผ่านของพวกเรา ก่อนที่จะเดินไปขึ้นเขาฮานึล พวกเราก็ได้เห็น การจราจรของเกาหลี เค้าดูเป็นระบบระเบียบมากๆ เลยทีเดียว (ถึงแม้ถนนจะมีหลายเลนก็ตาม) ซับเวย์สายสีน้ำตาล สถานี World cup stadium station ทางออก 1

บันไดขึ้นเขาฮานึล นับขั้นแล้วราวๆ 200 กว่าขั้น พวกเราพาร่าง 7 ร่าง เดินกันขึ้นไป ความรู้สึกระหว่างทางนั่นยากเกินจะบรรยาย มันรู้สึกเหนื่อย แต่ได้ดื่มด่ำกับภาพสวยงามขนาดนี้ ก็ยอมจำนนท์ 👍

เขาฮานึล ถือเป็นสถานที่หนึ่งของโซล สามารถมองเห็นเมืองโซลโดยรอบได้อย่างสวยงาม 👍 ลมพัดเนืองๆ อากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ทำให้พวกเราเสพความสุขจากบรรยากาศได้เป็นอย่างดี 😁

หลังจากพวกเราดื่มด่ำกับบรรยากาศ และชมภูมิทัศน์ของโซลบนเขาที่กว้างขวางอย่างเขาฮานึลแล้ว ก็ต้องต่อกันหน่อยกับมหาวิทยาลัยหญิงล้วนอย่างอีฮวา แหล่งสาวๆ สวยๆ และถือว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้ง เป็นสถานที่ที่ถือว่ามีสถาปัตยกรรมที่สวยงามของโซลแห่งหนึ่ง 🙃 ซับเวย์ สายสีเขียว สถานี Ewha Womans ทางออก 3

ปิดท้ายหัวค่ำของ เดย์แรกกันที่ม.อีฮวา สถานีที่เรามาถึงแสงอาทิตย์ก็ลับฟ้าไปอย่างรวดเร็ว 🤗 (นายแบบผู้เลื่องชื่อ)

สวัสดียามเช้า อากาศของวันนี้ต้อนรับกันที่ 0 องศา นี่คือภาพถนนหน้าที่พักของพวกเราทั่ง 7 ชาว โซลโซโซไซตี้
การข้ามถนนที่นี่ ต้องรอสัญญาณไฟทุกจุด ดูดีมีระเบียบคะ

วันนี้เราจะพากันไปขึ้นเขานัคซาน , หมู่บ้านIhwa Mural Vilage , DDP และปิดท้ายที่เมียงดงคะ

พวกเราโชคดีมากๆ คะ ที่พบดอกซากุระเกาหลี มันช่างสวยงามมากๆ ถึงแม้ว่ามันจะน้อยนิดก็ตาม
มันทำให้พวกเราตื่นเต้นที่ได้พบเจอ

ถ้าเดินขึ้นบันไดไปเป็น 100 ขั้น แล้วได้เห็นวิวทิวทัศน์แบบนี้ ก็ยอมนะ (สำหรับเรา) อากาศข้างบนเขานัคซานก็สดชื่นเอามากๆ มีแดดอ่อนๆ พอให้ร่างกายอบอุ่น

ลงจากเขานัคซานแล้วก็เลี้ยวซ้ายเดินต่อไปที่ Ihwa Mural Vilage ทางมันเชื่อมกันเลยนะคะ
ที่นี่มีความน่ารัก ของผู้คน และ ความเป็นอยู่

มองจากมุมนี้แล้วจะเห็นโซลทาวเวอร์ อยู่ไกลๆ

หมู่บ้านนี้ ห้ามส่งเสียงดังนะคะ เพราะตอนนี้บันไดดอกไม้ และบันไดปลาคาฟ ถูกลบออกแล้ว เหตุเพราะนักท่องเที่ยว เดินทางไปชมความน่ารักของหมู่บ้านนี้เป็นจำนวนมาก จึงเกิดมลพิษทางเสียงเล็กน้อย

หลังจากนี้พวกเราจะไปเก็บภาพกันต่อ ณ แหล่งรวมไอดอลของประเทศนี้ นั่นก็คือ DDP หรือ Dongdaemun Design Plaza
การเดินทาง ซับเวย์ สายสีฟ้า สถานี Dongdeamun History&Culture Park ทางออก 1

หลังจากนี้ พวกเราขอปิดเดย์สอง ด้วยแหล่งช้อปปิ้งที่คนไทยชอบไปกัน แหล่งรวมของถูก แต่ถ้าเดินวนนานๆ อาจจะไม่ถูกก็ได้นะคะ
การเดินทาง ซับเวย์สายสีฟ้า สถานี Myeong-dong ทางออก 6 ออกบุ๊ปเจอเลยคะ

เปิดวันที่ 3 ด้วยอากาศ 0 องศาเช่นเดิม
วันนี้เราส่งตัวแทนไปสอยรองเท้า ต้องต่อคิวแต่เช้า ปล่อยนางต่อคิวไป ที่เหลือก็เดิมสำรวจเส้นทางของฮงแดเวลาสายๆ
บรรยากาศอุ่นๆ ชิวๆ เดินเพลินๆ คะ

ระหว่างนี้พวกเราก็เดินหาร้านกาแฟ เพื่อเติมพลังกันก่อนออกเดินทาง
วันนี้สำหรับโซลโซโซไซตี้ เรามีแผนจะไป พระราชวังชางด็อก ท่องสวนลับฮูวอน , SSamzigil ย่านอินซาดง หมู่บ้านบุคชนฮันอก และ จตุรัสกวางฮวามุน

พวกเราได้ส่งตัวเองเข้าพระราชวังชางด็อก และเที่ยวชมสวนลับฮูวอน ฟาดเงินค่าเข้าชมกันไป 8,000 วอน แตกฟองเป็นเงินไทย 240 บาท (โดยประมาณ)
วิธีเดินทาง ซับเวย์สายสีส้ม สถานี Anguk ทางออก 3 พุ่งตัวออกไปเลยคะ เดินตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอพระราชวังอยู่ขวามือ ซื้อบัตรก่อนนะคะอย่าพลวดพลาดเข้าวัง

บรรยากาศย่านอินซาดง สามารถเดินเชื่อมกับพระราชวังชางด็อกได้เลยนะคะทุกท่าน ระยะทางในการเดินประมาณ 700-800 เมตร จากพระราชวังค์
ที่นี่พวกเราแวะกินข้าว และช้อปปิ้งช้อน ตะเกียบ ถ้วยข้าวแบบสแตนเลสกัน

ภาพต่อจากนี้จะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งแลนด์มาร์กอยู่บนเขาทั้งลูก อย่างหมู่บ้านบุคชนฮันอก
พวกเราใช่เวลาเดินทางไปถึงหมู่บ้านราวๆ 1 ชม. กันเลยหละ เพราะอากาศดีดี และหนาวเย็น ทำให้เดินกันช้ามากขึ้น แวะก็บ่อยขึ้นด้วยเช่นกัน
ระหว่างทาง บางคนแวะกินโอเด้งของอาจุมม่า เป็นร้านรถกะบะเคลื่อยที่ข้างวังชางด็อก บางคนเข้าร้านชำ ซื้อน้ำ ซื้อขนม ซื้อไอติม
ระหว่างการเดินทางนั่นถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะเก็บเกี่ยวอารมณ์ของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
พวกเราได้แวะร้านขายปฏิทิน และโปสการ์ด ดารา นักร้องเกาหลี เพื่อนร่วมทีมก็มีสอยปฏิทินยูชีจินบ้างไรบ้าง สามแฝดบ้างไรบ้าง ตามประสาติ่งเล็ก ๆ
เจ้าของร้านปฏิทินได้ชักชวนเราให้นั่งพัก ยังศาลากลางทาง เพื่อจิบชาร้อนก่อน เพราะอากาศหนาวเร็วมากๆ สำหรับวันนี้

หลังจากลงเขาหมู่บ้านบุคชนฮันอกมาแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปต่อกันที่จตุรัสกวาฮวามุน เพื่อปิดทริปของวันนี้
ดิ่งกลับที่พักกันอย่างรวดเร็ว เพราะหนาวเหน็บเสียเหลือเกิน

สุดท้ายแต่ไม่อยากท้ายสุด :D
วันนี้พวกเราจะเดินทางเก็บไฮไลด์ของโซล
เรากลับไปที่ม.อีฮวาอีกครั้ง เพราะวันแรกที่มาที่นี่ ก็พระอาทิตย์ตกดินแล้ว อากาศมืดมิด ทำให้เราไม่มีรูปของที่นี่มากนัก จึงเก็บกักภาพไว้กับเมมโมรีกันซักหน่อย
การเดินทาง ซับเวย์สายสีเขียว สถานี Ewha Womans ทางออก 3 เดินตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเจอเองคะ เด่นชัดมาก สำหรับมหาลัยของที่นี่

ต่อด้วยการเก็บภาพคลองหอยหลอด (คลองชองแกชอน) ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเมื่อวาน หลังจากที่เดินเล่นจุรัสกวางฮวามุนแล้ว แต่ไม่ไหวคะ สภาพอากาศมันเหน็บหนาวซะเหลือเกิน
วันนี้เลยแวะมากันซักหน่อย น้ำใส ไหลแรง เหรียญมาเต็มมากคะ ที่เห็นนายแบบเราก้มดูนั่นนี่ ไม่ใช่ไรนะคะ อยากเก็บเหรียญ
การเดินทาง ซับเวย์สายสีม่วง สถานี Gwanghwamun ทางออก 5 ออกทางออกมาแล้วจะเจอหอยหลอดเลยคะ เดินได้ยาวๆ กันไปเลย

ต่อกันที่ไฮไลด์ของเราวันนี้คะ ที่สุดท้ายก็ต้องปิดท้ายที่โซลทาวเวอร์นี่แหละ
การเดินทาง ซับเวย์ สายสีฟ้า สถานี Myeongdong ทางออก 3 เดินเบี้ยงขวาไปตามเนินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางขึ้นเคเบิ้ลคาร์คะ
พวกเราไม่เลือกเดินขึ้น (พอดีอยากใช่เงิน) :D เปล่าเลยคะ วันนี้ก็ปาเข้าไปวันที่ 4 แล้วที่ใช่ชีวิตอยู่ที่โซล เลยขอส่งตัวเองขึ้นดอยด้วยกระเช้าบ้าง
แต่จะใช่ 2 ขา เดินลง เพื่อเก็บบรรยากาศที่สวยงาม

ท้ายทริปของพวกเรา โซล-โซ-โซ-ไซ-ตี้
ก็เป็นภาพการเดินทางกลับ โดยมีคุณลุงเจ้าของอพาร์ทเม้นไปส่ง
ไม่อยากกลับบ้านเลย บรรยากาศของการท่องเที่ยวมันช่างดึงดูดเสียจริง