สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นจากเหนือจรดใต้

จากตอนที่แล้วเราพาไปชม 10 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วเอเชีย กันไปแล้ว ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงญี่ปุ่นและเกาหลีมาเป็นอันดับแรกๆ เพราะไปง่าย ไม่ต้องขอวีซ่าและเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวก วันนี้จึงจะมาแนะนำสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบเฉพาะเจาะจงกันที่ญี่ปุ่นอย่างเดียว เริ่มกันตั้งแต่เกาะทางเหนืออย่างฮอกไกโดไปจนถึงเกาะคิวชู ทั้งสถานที่และวิธีเดินทางใครกำลังจะไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นมาเก็บข้อมูลได้เลย

 

ดาวน์โหลด Travel Checklist ทริปญี่ปุ่น ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี : https://goo.gl/cSZyO2

ภูมิภาคฮอกไกโด | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนตุลาคม

 

สวนโอโดริ, ซัปโปโร (Odori Park, Sapporo)

สวนโอโดริ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร มีต้นไม้และดอกไม้ที่จะเปลี่ยนสีสันตลอดทั้งสี่ฤดู นอกจากจะมีใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ในช่วงวันที่ 9 กันยายน - 1 ตุลาคม ปี ค.ศ.2016 ที่สวนจะมีเทศกาล Sapporo Autumn Fest ที่รวมความความอร่อยของฮอกไกโดมาไว้ในที่เดียว

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีโอโดริ หรือรถไฟ JR ลงสถานีซัปโปโรและเดินต่ออีก 10 นาที
ที่ตั้ง : Odori Nishi 1-chome ~ Odori Nishi 12-chome, Chuo-ku, Sapporo

 

ภูเขาโมอิวะ, ซัปโปโร (Mt. Moiwa, Sapporo)

ภูเขาสูง 531 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองซัปโปโร เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าไอนุ จากยอดเขาสามารถมองเห็นวิวเมืองซัปโปโรและอ่าวอิชิคาริได้ เมื่อนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นถึงยอดของภูเขาโมอิวะแล้วจะเห็นภูเขาทั้งลูกถูกห่อหุ้มด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม

การเดินทาง : จากย่านซูซูกิโนะ นั่งรถรางมาลงที่สถานี Ropeway Iriguchi จากนั้นเดินประมาณ 5 นาทีไปยังทางขึ้นกระเช้าภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa Ropeway)
ที่ตั้ง : Fushimi 5-chome 3-7, Chuo-ku, Sapporo

 

ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค, ซัปโปโร (Jozankei Onsen, Sapporo)

โจซังเค แหล่งน้ำพุร้อนที่เป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่ง เดินทางจากซัปโปโรเพียง 1 ชั่วโมงกว่า นอกจากน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงแล้ว เรื่องความสวยงามของทิวทัศน์ เช่น ที่น้ำตกชิราอิโตะ น้ำตกยุโนะทาคิ ทะเลสาบแห่งไมซุรุ ก็เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดคนให้มาเยือนเช่นกัน

การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร นั่งรถ Jotetsu Bus หมายเลข 7 หรือ 8 มายังโจซังเค ออนเซ็น
ที่ตั้ง : Jozankei Onsen Higashi 3-chome, Minami-ku, Sapporo

 

สวนสาธารณะนากาจิมะ, ซัปโปโร (Nakajima Park, Sapporo)

อีกหนึ่งสวนสาธารณะใจกลางเมืองซัปโปโรติดกับย่านช้อปปิ้ง จากปากทางเข้าสวนสาธารณะคุณจะพบกับถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทอง นอกจากนี้ภายในสวนยังมีใบไม้แดงให้ชมอีกด้วย

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Namboku Line ลงที่สถานี  Nakajima Koen
ที่ตั้ง : Nakajima-koen 1, Chuo-ku, Sapporo

 

สวนสาธารณะมิฮาราชิ, ฮาโกดาเตะ (Miharashi-koen, Hakodate)

สวนสาธารณะแห่งนี้มีสวนและอาคารเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสวนแห่งเดียวในฮอกไกโดที่รัฐบาลประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีทางเดินในสวนจะถูกปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลสีแดง และวันที่ 22 ตุลาคม - 13 พฤศจิกายน 2016 จะมีการจัดงานเทศกาลโมมิ-จี เป็นการตกแต่งแสงไฟยามค่ำคืน และกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ลองทำอีกด้วย

การเดินทาง : จากสถานีฮาโกดาเตะ นั่งรถประจำทางมาลงที่ป้ายโคเซ็ทสึเอ็น-มาเอะ จากนั้นเดินต่ออีกนิดหน่อย
ที่ตั้ง : 56 Miharashi-cho, Hakodate

 

โกเรียวคาคุ, ฮาโกดาเตะ (Goryokaku, Hakodate)

ป้อมปราการรูปดาวขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูซึ่งจะให้ความสวยงามที่แตกต่างกันไป หากอยากชมวิวจากมุมสูง สามารถไปชมจากหอชมวิวโกเรียวคาคุที่อยู่ติดกันได้

การเดินทาง : เดินทางโดยรถราง 20 นาที มาถึงป้ายโกเรียวคาคุ โคเอ็น-มาเอะ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ที่ตั้ง : 43-9 Goryokaku-cho, Hakodate

 

---

 

ภูมิภาคโตโฮคุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

 

ภูเขานากาโนะ-โมมิจิ, อาโอโมริ (Mount Nakano-Momiji, Aomori)

ภูเขานากาโนะ-โมมิจิเป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของเมืองคุโรอิชิ ทุกๆ ปีภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แดง และตอนกลางคืนยังมีการจะแสดงแสงไฟที่ช่วยเพิ่มความสวยงามได้อย่างมากอีกด้วย บริเวณภูเขานากาโนะ-โมมิจิยังเป็นมีศาลเจ้านากาโนะตั้งอยู่ซึ่งบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลอายุ 200 ปี และต้นสนซีดาร์อายุกว่า 600 ปีอยู่ด้วย

การเดินทาง : จากสถานี JR Hirosaki ให้เดินไปขึ้นสาย Konan Line นั่งไปลงที่สถานี Kuroishi จากนั้นนั่งรถประจำทาง Konan Bus สาย Okawara-Nurugawa Line  ลงที่ป้าย Nakano Jinja Mae
ที่ตั้ง : 27 Fudodate Minami-Nakano Kuroishi-shi Aomori 036-0405

 

ปราสาทฮิโรซากิ, อาโอโมริ (Hirosaki Castle, Aomori)

รูปภาพจาก: www.en-hirosaki.com

บริเวณปราสาทมีต้นเมเปิ้ลกว่า 1,000 ต้น ซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ในส่วนของสวนฮิโรซากิจะถูกปกคลุมไปด้วยสีเหลืองและสีแดงของใบไม้ ตอนกลางคืนจะมีการจัดแสดงแสงไฟที่สวยงามมาก

การเดินทาง : จากสถานี JR Hirosaki ขึ้นรถประจำทาง Konan Bus สาย Dotemachi Loop ลงที่ป้าย Shiyakusho Mae (ตรงข้ามกับศาลาว่าการ) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ที่ตั้ง : 1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori

 

หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ, อากิตะ (Kakunodate Samurai Housings, Akita)

รูปภาพจาก: www.facebook.com/sugoiakitaTH

ในฤดูใบไม้ร่วงสองข้างทางของถนนบ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ จะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับกำแพงสีดำของบ้านซามูไร ตอนกลางก็สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟได้

การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากสถานี Kakunodate
ที่ตั้ง : Semboku, Akita

 

---

 

ภูมิภาคันโต | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม

 

สวนริคุงิเอ็น, โตเกียว (Rikugien Gardens, Tokyo)

รูปภาพจาก: www.facebook.com/TokyoFanClub

สวนขนาดใหญ่ในสมัยเอโดะที่ใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี เป็นหนึ่งในสวนยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียว สวนจะถูกปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงสวยและยังเป็นจุดชมใบไม้แดงยามค่ำคืนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวอีกด้วย

การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานีโคมะโงเมะ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
ที่ตั้ง : 6 Chome Honkomagome, Tokyo

 

เมจิจิงงูไกเอ็น, โตเกียว (Meiji Jingu Gaien, Tokyo)

เมจิจิงงูไกเอ็น ถนนสีเหลืองทองในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้ ทางเดินที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยกว่า 146 ต้น ทอดยาวไปยังแกลเลอรี่ เมอิจิ เมมโมเรียลกว่า 300 เมตร เสมือนเป็นอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงามสุดๆ

การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Shinanomachi หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Gaiemmae และ Aoyama-itchome
ที่ตั้ง : เขตมินาโตะ, โตเกียว

 

ทะเลสาบชูเซนจิและน้ำตกเคะงน, โทชิงิ (Lake Chuzenji - Kegon Falls, Tochigi)

ทะเลสาบชูเซนจิเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รอบๆ บริเวณริมทะเลสาบมีต้นเมเปิ้ลและต้นโอ๊ก ใกล้ๆ กันมีน้ำตกเคะงนโนะทากิเป็นน้ำตกขนาดใหญ่โดยน้ำที่ไหลมาจากทะเลสาบจูเซนจิ ตกมาจากหน้าผาชันที่มีความสูง 97 เมตร กลายเป็นหนึ่งในสามน้ำตกใหญ่ที่มีชื่อในญี่ปุ่น

การเดินทาง : จากสถานรถไฟ JR และ Tobu Nikko นั่งรถ Tobu Bus ประมาณ 50 นาที ไปลงที่จูเซนจิ ออนเซน (ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอาจต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติเพราะการจารจรหนาแน่นโดยเฉพาะในวันหยุด)
ที่ตั้ง : จูกูชิ, เมืองนิกโก

 

หุบเขาฮานานุกิ, อิบารากิ (Hananuki gorge, Ibaraki)

รูปภาพจาก: © Ibaraki Prefecture/© JNTO


จุดชมธรรมชาติสวยๆ คลอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เขื่อนฮานานุกิไปจนถึงสะพานสึชิทาเกะและโทริโซเนะ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณสะพานแขวนจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แดง ให้คุณได้เดินชมวิวผ่านอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีได้

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Joban line ลงที่สถานี Takahagi จากนั้นต่อด้วยรถแท็กซี่
ที่ตั้ง : Hananuki, Takahagi-City

 

สะพานคาจิคะบาชิ, กุนมะ (Kajika Bridge, Gunma)

สะพานคาจิคะบาชิอยู่ใกล้กับอิคาโฮะ ออนเซน เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงยอดนิยมของกุนมะ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีการประดับไฟ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีตอนยามค่ำได้

การเดินทาง : นั่งรถประจำทางลงที่สถานีรถประจำทางอิคาโฮะ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ที่ตั้ง : Ikaho, Ikaho-machi, Shibukawa-shi, Gunma

 

ทะเลสาบฟุจิทั้งห้า, ยามานาชิ (Fuji Five Lakes, Yamanashi)

บริเวณทะเลสาบฟูจิทั้งห้าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ จุดหนึ่ง เพราะนักท่องเที่ยวจะสามารถชมใบไม้แดงที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิได้ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนนิยมไปคือบริเวณทะเลสาบคาวากุชิโกะ และบริเวณทะเลสาบยามานากะ ที่นี่ยังมีการจัดแสดงไฟในตอนกลางคืนให้อีกด้วย

การเดินทาง : จากสถานีชินจูกุ, โตเกียว นั่งรถไฟหรือรถบัส Chuo Highway Bus ลงที่สถานีคาวากูชิโกะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง  

 

---

 

ภูมิภาคชูบุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม

 

สวนโชวอัน ซันโซ, นีงาตะ (Shouun Sanso Garden, Niigata)

สวนสไตล์ญี่ปุ่นสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1926 เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ภายในสวนยังมีพิพิธภัณฑ์ Kimura Tea Ceremony Museum ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถลองดื่มชาเขียวแบบดั้งเดิมพร้อมชมวิวใบไม้เปลี่ยนไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย

การเดินทาง : เดินประมาณ 20 นาที จากสถานีรถไฟ JR Kashiwazaki
ที่ตั้ง : Midori-cho 3, Kashiwazaki

 

เส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ, โทยามะ (Tateyama Kurobe Alpine Route, Toyama)

ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีแบบพาโนราม่าได้ที่นี่ หากนั่งกระเช้าขึ้นสถานีไดกันโบจะได้วิวสวยๆไปตลอดทาง ด้านบนสถานียังมีจุดชมวิวบนดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น, ทะเลสาบที่เขื่อนคุโรเบะ และยังสามารถเห็นหุบเขาใหญ่ ฮาริโนะคิ-ได เซกเก 1 ใน 3 หุบเขาใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีหิมะปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งปี

การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานีทาเทยามะ หรือสถานีโอกิซาวะ

 

โครันเค, ไอจิ (Korankei, Aichi)

รูปภาพจาก: ©Yasufumi Nishi/©JNTO


โครันเคเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดไอจิ  ผิวน้ำของแม่น้ำโทโมเอะจะระยิบระยับสวยงามด้วยสีแดงและสีเหลืองจากต้นไม้ราว 4,000 ต้น ที่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ

การเดินทาง : จากสถานีนาโกย่า ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Main Line ลงที่สถานี Higashi Okazaki จากนั้นต่อรถบัส Meitetsu Bus ลงที่ป้าย Korankei และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ที่ตั้ง : Asuke-cho, Toyota-city, Aichi

 

---

 

ภูมิภาคคันไซ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม

 

อาราชิยามะ, เกียวโต (Arashiyama , Kyoto)

ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีและบรรยากาศสบายๆ ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมาเยือนอาราชิยามะมากช่วงหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ชมใบไม้สุดฮิตของเกียวโตเลยทีเดียว ถ้ามาเที่ยวที่นี่อย่าพลาดที่จะถ่ายรูปกับสะพานโทเง็ทสึเคียว โดยมีภูเขาอาราชิยามะเป็นฉากหลัง

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Saga-Arashiyama ใช้เวลาเดิน 10 นาที
ที่ตั้ง : Arashiyama , Kyoto

 

วัดคิโยมิซึ, เกียวโต (Kiyomizu dera, Kyoto)

วัดคิโยมิซึหรือวัดน้ำใสเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงของเกียวโต จุดเด่นของวัดนี้คือระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาด้านข้างของเนินเขา ซึ่งจะมีวิวที่สวยงามแตกต่างกันไปในทุกฤดู ในฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสุดๆ เพราะใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มไปทั่วบริเวณ  ในตอนกลางคืนจะมีการตกแต่งด้วยแสงไฟให้ความสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

การเดินทาง : จากสถานีเกียวโตขึ้นรถประจำทางที่ป้าย Kyoto-eki-mae นั่งสาย 206 หรือ 100 ลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือป้าย Kiyomizu-michi เดินต่ออีกประมาณ 10 - 15 นาที
ที่ตั้ง : 1-294 คิมะสึ ฮิงะชิยะมะ-คุ, เกียวโต

 

วัดคัตสึโอจิ, โอซาก้า (Katsuoji Temple, Osaka)

รูปภาพจาก: www.facebook.com/cafedeosaka.now.en

รูปภาพจาก: www.facebook.com/cafedeosaka.now.en

วัดคัตสึโอจิตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองมิโนะ มีเอกลักษณ์อยู่ที่ตุ๊กตาดารุมะหลากหลายขนาดที่วางไว้ทั่ววัด ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของใบไม้แดงที่ปกคลุมไปทั่วภูเขา

การเดินทาง : จากสถานีโอซาก้านั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Senri-Chuo จากนั้นต่อแท็กซี่มาลงที่วัด
ที่ตั้ง : 562-8508 Katsuoji, Mino City, Osaka

 

วนอุทยานแห่งชาติมิโน (Mino Quasi-national Park)

รูปภาพจาก: www.facebook.com/OsakaConventionToursimBureau

วนอุทยานแห่งชาติอันสวยงาม ตั้งอยู่บนหุบเขาด้านทิศเหนือของเมืองมิโน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงป่าเมเปิ้ลที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มสวยงามมาก ไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้คือน้ำตกมิโนที่สูง 33 เมตร

การเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟสาย Hankyu/Takarazuka Line จากสถานี Umeda ไปต่อสาย Minoh Line ที่สถานี Ishibashi
ที่ตั้ง : Mino-Koen, Mino City, Osaka

 

โคยะซัง, วากายามะ (Koyasan, Wakayama)

663highland [GFDL, CC-BY-SA-3.0 or CC BY 2.5], via Wikimedia Commons

โคยะซังหรือภูเขาโคยะ หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมาแล้วกว่า 1,200 ปี  เป็นบ้านเกิดของพระพุทธศาสนานิกายชินงอน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะได้ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของสถานที่แห่งนี้ได้พร้อมๆ กัน

การเดินทาง : นั่งรถเมล์จากสถานี JR Wakayama หรือสถานี Nankai Wakayamashi ลงรถที่ป้ายรถเมล์ Shiyakushomae
ที่ตั้ง : 3 Ichibancho, Wakayama

 

---

 

ภูมิภาคชูโกกุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม

 

วัดอิยามะ โฮคุฟุจิ, โอกายามะ (Iyama Hofuku-ji Temple, Okayama)

วัดเซนที่สร้างขึ้นในปี 1232 มีสถาปัตยกรรมเจดีย์ 3 ชั้นซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติด้วย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งดื่มชา ชิมขนมหวาน พร้อมชมสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มไปพร้อมๆ กันได้ ตอนกลางคืนที่สวนภายในวัดจะมีการจัดแสงไฟเพิ่มความสวยงามของใบไม้แดงมากขึ้น

การเดินทาง : นั่งรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที จากสถานีรถไฟ JR Soja
ที่ตั้ง : 1968, Ijirino, Soja City, Okayama

 

สวนโมมิจิดะนิ, ฮิโรชิมะ (Momijidani Park, Hiroshima)

สวนโมมิจิดะนิตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าอิซึคุชิมะ ในสวนแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลกว่า 200 ต้น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสวนจึงดูสวยงามเป็นพิเศษ จุดที่สวยที่สุดของสวนนี้คือ สะพานโมมิจิ สะพานแดงที่ใครไปต้องไม่พลาดถ่ายรูปบริเวณนี้

การเดินทาง : จากสถานี Hiroshima นั่งรถไฟไปลงสถานี Miyajima-guchi แล้วต่อเรือเฟอร์รี่ ลงท่าเรือ Miyajima-sanbashi เดินไปทางด้านหลังศาลเจ้าอิซึคุชิมะ
ที่ตั้ง : Miyajima-cho, Hatsukaichi-shi

 

---

 

ภูมิภาคชิโกกุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม

 

สวนริทสึริน, คางาวะ (Ritsurin Garden, Kagawa)

สวนมรดกทางวัฒนธรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อายุเกือบ 400 ปี สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นที่เที่ยวชมได้ตลอดทั้ง 4 ฤดู ในฤดูใบไม้ร่วงสวนจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้แดง และในตอนกลางคืนก็มีการเปิดไฟตกแต่งสวนอีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สายโคโตะคุ ประมาณ 8 นาที ลงสถานีริทสึรินโคเอ็นคิตะกุจิ (Ritsurin Station) แล้วเดินต่อ ประมาณ 10 นาที
ที่ตั้ง : 1-20-16, Ritsurin-cho, Takamatsu city

 

---

 

ภูมิภาคคิวชู | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม

 

สะพานแขวนโคะโคะโนะเอะ ยูเมะ, โออิตะ (Kokonoe Yume Grand Suspension Bridge, Oita)

รูปภาพจาก: www.welcomekyushu.com

สะพานแขวนยาวกว่า 390 เมตรนี้เป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น จากบนสะพานนี้สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนราม่าได้ เช่น น้ำตกชินโด 1 ใน 100 ของน้ำตกในญี่ปุ่น และ คิวซุยเค สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่คนมาเที่ยวที่สะพานนี้มากที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี

การเดินทาง : จากสถานีฟุกุโอกะ นั่งรถ Epress Bus ลงที่สถานี Kokonoe Interchange จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถ Route Bus ไปลงที่ป้าย Otsurihashi-Nakamura-guchi
ที่ตั้ง : Kokonoe-machi, Kusu-gun, Oita

 

น้ำพุร้อนอุนเซน, นางาซากิ (Unzen Onsen, Nagasaki)

รูปภาพจาก: www.unzen-ropeway.com

สีแดง ส้มและเหลือง ของใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่มีความงดงามมาก ถึงขนาดหากมองไกลๆ อาจเข้าใจผิดจะคิดไปว่าเป็นดอกไม้ได้ เป็นเพราะที่นี่มีต้นไม้ที่ใบเปลี่ยนสีถึง 150 กว่าชนิด ลองขึ้นกระเช้าที่สถานี Nita Pass ไปยังสถานี Myokendake คุณจะได้ชมวิวสวยๆ ของป่าสีส้มที่อยู่เบื้องล่างได้

การเดินทาง : จากสถานี JR Isahaya นั่งรถบัส Shimatetsu ลงที่ป้าย  Shimatetsu Bus Unzen Office ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
ที่ตั้ง : Unzen-city, Nagasaki


 

---