เช็คอิน "อัยเยอร์เวง เบตง" สัมผัสทะเลหมอก พร้อมกับวิวสุดว้าวที่รายล้อมรอบตัว!

สถานที่สุด Unseen แบบนี้ ไม่คิดว่าใต้สุดของเมืองไทยเราจะมีแบบนี้! govivigo ขอแนะนำเพื่อนๆ เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ลงไปล่างสุดของประเทศที่ "อัยเยอร์เวง เบตง" ที่นี่มีแลนด์มาร์คยอดฮิตและการันตีความตระการตาอย่าง “สกายวอร์คอัยเยอร์เวง” ซึ่งเป็นสถานที่แนะนำให้มาเช็คอิน ซึ่งเราจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่อยู่ล้อมรอบบตัวเราในตอนเช้า หรือแม้กระในตอนกลางและตอนกลางคืนก็เห็นวิวทิวทัศน์ทอดยาวไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา จะมาช่วงไหนก็สวยทุกช่วงเวลา เรียกได้ว่าได้ดื่มด่ำกับกับบรรยากาศหลักล้านสุดๆ



มาทำความรู้จักกับ "ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง" กันก่อน สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านธารมะลิ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร และเป็นจุดยอดฮิตที่เราสามารถชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการได้ ที่ว้าวไปกว่านั้นคือเราสามารถชมทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปีเลยด้วย ที่สำคัญไม่ใช่ทะเลหมอกธรรมดา แต่เป็นทะเลหมอกขนาดใหญ่ซึ่งสวยมาก จำนวนหมอกก็คือหนาแน่น ฟินสุดๆ อีกทั้งยังชมวิวทะเลหมอกสลับกับชมความสวยงามของยอดเขาไมโครเวฟได้แบบพาโนรามา หลายคนขนานนามให้ที่นี่ว่าเป็นเหมือนสวรรค์ที่ใกล้พื้นดินเลยด้วย ปังไม่ไหว

การมาชมทะเลหมอกนี้ก็ค่อนข้างที่จะสะดวกสบาย สามารถเดินทางจุดชมวิวได้ง่ายมาก หากใครนำรถมาก็มีที่จอดรถให้ เพราะไม่สามารถขับขึ้ไปได้่ ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด หลังจากนั้นก็ใช้บริการรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างหรือรถสองแถวขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งตรงนี้สามารถเลือกได้ตามความสะดวกของนักท่องเที่ยวเลย แถมจากลานจอดรถนั่งรถขึ้นไปไม่ถึง 5 นาที แปปเดียวก็คือถึงเลย



จะไม่พูดถึงไฮไลท์ของที่นี่ไม่ได้! ที่บริเวณจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวงมี “สกายวอร์คอัยเยอร์เวง” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ในอำเภอเบตง มีความสูง 2,038 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล โดยสกายวอล์คนี้สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และจุดเด่นของที่นี่จะเป็นวิวแบบพาโนรามา สามารถมองได้รอบๆ ถึง 360 องศา มาพร้อมกับระเบียงพื้นกระจกใส ยาว 61 เมตร นับว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนอีกด้วย ใครจะมาต้าน!



“สกายวอร์คอัยเยอร์เวง” จะมีทั้งหมด 6 ชั้น แต่จุดที่สามารถใช้บริการได้จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่มีทางเดินทอดยาวไปยังระเบียงวงกลม และชั้น 4-6 เป็นจุดชมวิวแบบสี่เหลี่ยมที่มีที่กระจกยกสูงเป็นระเบียงชมวิว โดยระเบียงทางเดินยื่นออกไปจากฐานของอาคาร ปลายระเบียงเป็นพื้นกระจกใส สามารมองเห็นด้านล่าง



ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวชมทะเลหมอกแล้วจะเจอกับวิวสุดว้าวที่สุด จะอยู่ช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน วิวที่ได้จะสวยสะพรึงสุดๆ มีทะเลหมอกเต็มพื้นที่ เสริฟพร้อมกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส แล้วแสงก็คือสวยมาก ถ่ายรูปได้เป็นพันช็อต แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกมาในช่วงเวลาดังกล่าว ก็สามารถมาเที่ยวชชมได้ตลอด เพราะหมอกจะมีมาตลอดทั้งปี โดยหมอกจะหนาจัดในช่วงเช้าตั้งแต่ช่วงเช้ามืด พอพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงสายๆ ของวันสามารถมองได้ทิวเขาสวยงามสลับกับหมอกอ่อนๆ ไม่เพียงเท่านั้น เราสามารถมองได้ไกลไปจนถึงฝั่งมาเลเซียเลยด้วย!! 

ใครว่าภาคใต้มีแค่ทะเลสวยเพียงอย่างเดียว อยากจะบอกว่าเที่ยวชมทะเลหมอก และชมทิวเขาก็สวยเหมือนกัน ให้ความรูเสึกคนละมู้ดกันเลย อยากจะบอกว่าวิวสวยๆ แบบนี้หาได้ยากมาก หากเพื่อนๆ ว่าง ก็อยากจะแนะนำทริปนี้มาเที่ยวกัน นอกจากจะได้ชมทะเลหมอกสุดอลังการแล้ว ยังได้รูปเอาไปลงสวยๆ ไม่ซ้ำใครแน่นอน!!!