ทำไมต้องเลือก! ในเมื่อเที่ยวได้ทั้งเขาและทะเล @เมืองโคตาคินาบาลู มาเลเซีย
ถ้าพูดถึงมาเลเซีย หลายคนคงจะรู้จักแค่เมืองหลวงหรือเมืองหลักๆ อย่าง เมืองกัวลาลัมเปอร์หรือเมืองปีนัง วันนี้ govivigo ได้สืบเสาะค้นหาแหล่งเที่ยวลับ ที่อยู่ใกล้ประเทศไทย มาป้ายยาเพื่อนๆ กัน นั่นก็คือเมืองโคตาคินาบาลู พูดง่ายๆ ว่าเป็นเมืองรองในประเทศมาเลเซีย ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก (แต่ถ้าบทความนี้ออกไป อาจจะเป็นสถานที่ป็อบๆ เลยก็ได้นะ อิอิ) จะบอกว่าเมืองนี้ถือเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวครบ หมดปัญหาตีกันในกลุ่มเพื่อนนว่าจะไปเที่ยวภูเขาหรือทะเล เพราะมาที่นี่เราจะได้เที่ยวทั้งหมด!! govivigo ได้เตรียมไว้ 2 สถานที่เอาใจเพื่อนๆ ทุกคน เพื่อที่จะได้เลือกเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ หรือจะไปทั้งสองที่ ก็คือปังสุดๆ
เมืองโคตาคินาบาลู เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย เป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าท่องเที่ยว และไม่ควรพลาดเลยทีเดียว! อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเดินป่า ปีนเขา ดำน้ำ ล่องแก่ง รวมถึงยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้เลือกทำอีกมากมาย สำหรับสายท่องเที่ยวธรรมชาติ เพื่อนๆ จะได้พบกับขุมทรัพย์ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทิวเขาสุดลูกหูลูกตา หรือทะเลสีครามสุดสวย ให้ปล่อยใจชิลล์ ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้แบบสุดๆ
ใครที่ชอบวิวสวยๆ ที่สูงๆของภูเขา หรือรักในกิจกรรมปีนเขา ห้ามพลาดที่จะมาเยี่ยมชม "ยอดเขาคินาบาลู" บอกได้เลยว่าวิวสวยร้อยล้านจริงๆ สมกับเป็นจุดมุ่งหมายหลักของนักท่องเที่ยวหลายคน ด้วยความที่ยอดเขานี้มีความสูงถึง 4,095 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้เราได้สัมผัสกับอากาศที่ดี เห็นท้องฟ้าสดใสสลับกับปุยเมฆที่ลอยอยู่ด้านบน อีกทั้งยอดเขานี้มีรูปร่างที่สวยแปลกตา ยิ่งเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบไม่ขาดสาย แต่แอบกระซิบหน่อยว่า ถ้าจะไปที่นี่ให้ไปช่วงมีนาคม-สิงหาคมดีกว่า เพราะบรรยากาศจะดี เห็นวิวทิศน์ได้เต็มตา แต่เดือนอื่นที่ไม่ได้กล่าวมา ไม่ควรไปเพราะจะเข้าฤดูมรสุมแล้ว ทำให้อากาศแปรปรวน ซึ่งทริปจะกร่อยเอาได้
แน่นอนว่ามาที่นี่เราก็ต้องจำเป็นที่จะต้องทำกิจกรรมยอดฮิตอย่าง "ปีนเขา" ซึ่งจะบอกว่าการมาปีนเขาที่นี่ชาเลนจ์มาก ด้วยระยะทางไปกลับที่ยาวถึง 18 กม. และมาพร้อมกับทางลาดชันแบบสุดๆ จึงใช้เวลาเดินทางทั้งหมดอย่างน้อย 2 วัน แต่ไม่ต้องห่วง การเดินทางเพื่อขึ้นไปบนยอดเขา จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยเป็นไกด์นำทาง และได้จัดแจงแล้วว่าควรเดินกี่กม. และคำนวณระยะเวลาว่าควรพักเท่าไหร่ เพราะเราจำเป็นต้องเซฟร่างกายเราด้วย การเดินพิชิตยอดเขานี้จะต้องเผชิญกับทางชันมากๆ บางพื้นที่ก็สามารถเดินได้ด้วยเท้าเปล่า (แต่ต้องระวังเหมือนกันนะ จะได้ไม่ลื่น) และบางพื้นที่จำเป็นต้องเกาะเชือกเพื่อไต่ขึ้นไป แอดเวนเจอร์สุดๆ
พอเราพิชิตยอดเขาคินาบาลู ในช่วงเวลานี้จะฟินสุดๆ เราจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนจะบริสุทธิ์ รวมถึงได้เห็นวิวท้องฟ้าและเมฆลอยใกล้เราสุดๆ เรียกได้เวลาช่วงเวลานี้ควรเก็บเกี่ยวมากที่สุด พอเราฟินกับบรรยากาศเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคราวที่ต้องลงเขา บอกได้เลยว่าใครที่จะมาที่นี่ แนะนำให้เตรียมร่างกายให้พร้อม ฟิตร่างกายให้ปึ๋งปั๋ง เน้นช่วงขาเป็นหลัก ไม่เช่นนั้นร่างกายจะแย่เอาได้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เอาใจสายท่องเที่ยวธรรมชาติและสายเที่ยวแบบผจญภัยสุดๆ
หลังจากที่เราลงเขากันมาแล้ว ก็มาปล่อยใจชิลล์กันได้ที่ "เกาะมานูกัน (Manukan Island)" ซึ่งเกาะนี้เป็นเกาะเล็กๆ ที่ใกล้กับเกาะบอร์เนียว มีรูปร่างคล้ายกับพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองโคตาคินาบาลู สามารถข้ามมาเกาะนี้ได้โดยการนั่งเรือมาเพียง 15 นาทีเท่านั้น แถมเกาะนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่จะบอกให้ว่าการันตีความปังแน่นอน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีชายหาดที่สวยมาก เหมาะสำหรับคนที่มาพักผ่อนจริงๆ ถึงแม้ว่าบนเกาะนี้จะมีที่พักน้อย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกคือครบครันมาก ไม่ว่าจะเป็นที่พักสวยๆ ร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆ แถมยังมีสระว่ายน้ำ สนามบอลและสนามวอลเล่ย์บอลคอยให้บริการด้วย ที่สำคัญยังมีกิจกรรมทางน้ำให้เล่นอีกด้วย เรียกได้ว่ามาพักผ่อนและสนุกไปในเวลาเดียวกัน
เนื่องจากเกาะแห่งนี้ถือว่าคนไม่เยอะมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ มีฝรั่ง จีนและเกาหลีบ้างประปราย ไฮไลท์เด่นๆ ที่ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามายังที่แห่งนี้ เพราะมีธรรมชาติท้องทะเลที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ เมื่อมองออกไปจะเห็นหาดทรายทอดเป็นทางยาว สะอาดสะอ้านไม่มีขยะ แถมน้ำก็ยังใสมากๆ และสามารถว่ายชมปะการังได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นจุดที่พักผ่อนได้ดีเยี่ยมสุดๆ ที่สำคัญมีมุมให้พักชมวิว มาพร้อมกับลมเย็นๆ เป็นระยะๆ ผ่อนคลายสุดๆฃ
สำหรับใครที่วางแพลนมา บอกเลยว่าต้องมา!! เนื่องจากเกาะอยู่ติดกับเมืองโคตาคินาบาลู ทำให้สามารถตัดสินใจเที่ยวได้สองแบบนั่นก็คือ One Day Trip หรือพักค้างคืนเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดฟินก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ มาที่นี่คือพักผ่อนสมอง บอกลาความเครียดได้เลย
ประเทศมาเลเซียถือเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกับไทยเรา govivigo แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรหาเวลามาสัมผัสกับเมืองรองแสนสวย ที่ครบทุกความต้องการไม่ว่าจะเป็นเขาหรือทะเล สามารถแพลนทริปให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เพราะแน่นอนว่ามาที่นี่มีกิจกรรมที่ตอบโจทย์ให้ทำแน่นอน
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)