9 ที่เที่ยวทบิลิซี เมืองสวยแห่งจอร์เจีย สวยจนต้องบอกต่อ
หนึ่งในประเทศที่สายเที่ยวกำลังให้ความสนใจในตอนนี้ก็คือ จอร์เจีย ประเทศที่อยู่สุดขอบของทวีปเอเชีย และยังมีบรรยากาศในประเทศคล้ายกับทางยุโรป ซึ่งในการมาเที่ยวจอร์เจียครั้งแรก เมืองที่ทุกคนต้องมานั่นก็คือ ทบิลิซี (Tbilisi) เมืองหลวงเก่าแก่ ที่เป็นจุดหมายปลายทางหลักๆ ในการเริ่มต้นสำรวจและท่องเที่ยวประเทศจอร์เจีย ซึ่งเสน่ห์ของเมืองนี้ที่คุณจะได้สัมผัส เมื่อย่างเท้าเข้ามาเยือนก็คือ เอกลักษณ์ของเมืองสมัยใหม่ที่รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 และบทความนี้ เราจะชวนคุณไปสำรวจรอบๆ กับ 9 ที่เที่ยวทบิลิซี เมืองสวยแห่งจอร์เจีย ที่ไหนน่าสนใจ สวยจนต้องบอกต่อ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
รู้จักเมืองทบิลิซี
คำว่า ทบิลิซี (Tbilisi) มีความหมายว่า ร้อนหรือความอบอุ่น ซึ่งเป็นการตั้งชื่อเมืองตามสภาพแวดล้อมที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมาก เมืองทบิลิซี ตั้งอยู่ในหุบเขา ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดย แม่น้ำมิทควาริ (Mtkvari River) แม่น้ำสายหลักของประเทศ อาคารบ้านเรือนสีพาสเทลพร้อมหลังคาสีส้มสดใสตั้งเรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง แม้จะอยู่ในเอเชียแต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเที่ยวชมประเทศฝั่งยุโรปอยู่เลยทีเดียว
1.ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress)
ป้อมปราการนาริกาลา คือป้อมปราการโบราณ ซึ่งตั้งอยู่เหนือเขตเมืองเก่า ทบิลิซี ถูกสร้างขึ้นมาในศตวรรษที่ 4 เพื่อปกป้องเมืองนี้ โดยชื่อ Nari-Kala เป็นภาษาเปอร์เซีย แปลว่า “ป้อมที่ไม่สามารถตีแตก” ซึ่งป้อมแห่งนี้ผ่านศึกหลายสงครามในอดีตจนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแข็งแกร่งควรค่าแก่การใช้ชื่อนี้จริงๆ ใครอยากชิมวิวเมืองทบิลิซีแบบพาโนรามาจัดเต็ม ก็สามารถขึ้นมาชมได้ด้วยเคเบิลคาร์ ค่าขึ้นเพียง 1-2.5 ลารี่ต่อเที่ยว ใช้เวลานั่งประมาณ 3-4 นาที และกระเช้าเริ่มเปิดบริการตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 24.00 น. ส่วนทางขึ้นเคเบิลคาร์จะอยู่ใน Rike Park ใกล้กับ The Bridge of Peace แต่หากใครขยันหรืออยากออกกำลังกาย ก็สามารถเดินชิลๆ ขึ้นมาเองได้เช่นกัน
พิกัด :
Booking.com
2.วิหารโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi)
วิหารโฮลี่ทรินิตี้ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ มหาวิหารซาเมบา (Sameba Cathedral) เป็นโบสถ์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่มีความสำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์เจีย สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล รวมทั้งยังเป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วย
โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเยี่ยมชมความงามของโบสถ์แห่งนี้คือ ช่วงเช้าหรือเย็นที่แสงไม่แรง อากาศดี คนน้อย เวลาที่ประตูเปิดคือ 07.00 น. สามารถถ่ายรูปรอบโบสถ์กันได้อย่างสบายๆ ข้อควรระวังคือภายในโบสถ์หรือวิหารของประเทศจอร์เจียจะมีทั้งที่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ (โดยไม่ใช้แฟลช) และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ดังนั้นก่อนที่จะเข้าไปในโบสถ์หรือวิหารแต่ละที่ ขอให้นักเดินทางทุกคนอ่านป้ายหรือข้อกำหนดต่างๆ และปฏิบัติตามกันด้วยนะ
พิกัด :
Booking.com
3.สะพานแห่งสันติภาพ (Bridge of Peace)
สะพานสันติภาพ หรืออีกชื่อก็คือ Mshvidobis Khidi เป็นสะพานที่มีความยาวถึง 150 เมตร ใช้ข้ามแม่น้ำคูรา เชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและตัวเมืองใหม่ของ ทบิลิซี โครงสร้างหลักของสะพานทำมาจากเหล็กและกระจกใส มีการเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความสวยงามชิ้นหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ใครที่ไปเยือนสะพานนี้ในช่วงกลางคืนถึงเช้ามืดก็จะได้เห็นแสงสีที่สวยงามของสะพานแห่งนี้อีกด้วย
พิกัด :
Booking.com
4.โบสถ์เมเตคี (Metekhi Cathedral)
โบสถ์เมเตคี หรือ Metekhi St. Virgin Church โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยคริสตศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำคูรา ใกล้กับป้อมนาริกาลา ตรงข้ามกับเขตเมืองเก่า โบสถ์นี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการเดินชมเมืองของนักท่องเที่ยว เพราะบริเวณนี้สามารถมองเห็นสถานที่เที่ยวต่างๆ รอบเมืองได้อย่างชัดเจน รวมทั้งมีระยะทางการเดินไปยังแต่ละสถานที่ได้ในเวลาไม่นาน
จุดเด่นที่น่าสนใจในการมาเที่ยวชมโบสถ์แห่งนี้คือความเก่าแก่ สวยงาม และรูปปั้นของกษัตริย์วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) ผู้ค้นพบเมืองทบิลิซี รวมทั้งที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายรูปวิวเมือง ทบิลิซี ที่สวยมากอีกแห่งหนึ่ง สำหรับการเข้าชมโบสถ์ของประเทศจอร์เจีย ผู้หญิงทุกคนจะต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะ อย่าลืมเตรียมผ้าของตัวเองไปเผื่อไว้ด้วยนะ
พิกัด :
Booking.com
5.เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia)
The Chronicle of Georgia คืออนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจีย ตั้งโดดเด่นอยู่บนภูเขาสูงนอกเมืองทบิลิซี มีขนาดใหญ่โตอลังการสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และทำให้ใครก็ตามที่ไปยืนใกล้ๆ ดูตัวเล็กจิ๋วลงทันตา สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 ในสมัยที่ประเทศจอร์เจียยังอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศรัสเซีย
เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย ทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของประเทศจอร์เจียผ่านเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 16 ต้น โดยเสาหินแต่ละต้นมีขนาดใหญ่กว่า 10 คนโอบ และมีความสูงถึง 35 เมตร โดยผู้ที่เริ่มสร้างคือชาวจอร์เจียที่ชื่อว่า Zurab Tsereteli แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างจึงทำให้ปัจจุบันนี้ The Chronicle of Georgia ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ยังคงเหลือรายละเอียดที่ต้องเก็บอยู่หลายจุด
แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ด้วยโครงสร้างและยิ่งใหญ่ของเสานี้ ทำให้ The Chronicle of Georgia กลายเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวสุดประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มา เที่ยวจอร์เจีย จนหลายคนยกให้เป็น “The Hidden Gems of Tbilisi” แถมยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถเห็นเมือง ทบิลิซี และทะเลได้สวยจัดชัดเจนอีกด้วย
พิกัด :
Booking.com
6.สวนพฤกษศาสตร์แห่งจอร์เจีย (National Botanical Garden of Georgia)
สวนพฤกษศาสตร์แห่งจอร์เจีย มีบรรดาพืชพันธุ์ต่างๆ มากถึง 4,500 สายพันธุ์ และมีพื้นที่กว้างใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาโซโลลากีเกือบทั้งหมด ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ทุ่งดอกป๊อปปี้สีแดงที่ตัดกับพื้นหญ้าสีเขียว
ช่วงไฮซีซั่นของสวนแห่งนี้ก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ ในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ที่ทั้งสวนจะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด เบ่งบานรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่นี่มีค่าเข้าชมสวน คนละ 2 ลารี โดยสวนจะเปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. ส่วนเวลาปิดนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล
พิกัด :
Booking.com
7.สวนไรค์ (Rike Park)
Rike Park สวนสาธารณะใจกลางเมืองทบิลิซิ ตรงข้ามกับสะพานแห่งสันติภาพ สวนนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นจุดชมวิวโดยรอบของเมืองนี้ได้อย่างสวยงาม มีลานน้ำพุ คาเฟ่เท่ๆ และม้านั่งพักผ่อนท่ามกลางความสดชื่นของต้นไม้ ดอกไม้ และงานศิลปะ
นอกจากต้นไม้ที่ได้รับการดูแลและตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรมหน้าตาล้ำสมัยให้ชมหลายจุด และที่เด่นสะดุดตาจนต้องไปถ่ายรูปก็คือ อาคารขนาดใหญ่รูปทรงคล้ายสองอุโมงค์ยักษ์ที่ชื่อว่า Rike Park Concert Hall & Exhibition Center เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการและโรงละครที่สามารถจุได้กว่า 560 ที่นั่ง ออกแบบโดย Studio Fuksas บริษัทสถาปนิกสัญชาติอิตาลี ใครมีแพลนมา เที่ยวจอร์เจีย อย่าลืมแวะมาเดินเล่นกันได้
พิกัด :
Booking.com
8.โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี (Abanotubani | Sulphur Bath)
โรงอาบน้ำกำมะถัน หรือ The Abanotubani Bath House มีที่มาจากตำนานเล่าว่า ค้นพบโดยการที่นกเหยี่ยวของกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali พลัดตกลงไป โดยลักษณะของโรงอาบน้ำ มีลักษณะคล้ายกับบ่อออนเซ็นของชาวญี่ปุ่น ส่วนคนท้องถิ่งจะเรียกโรงอาบน้ำโบราณนี้ว่า อะบาโนตูบานี (Abanotubani) มีจุดเด่นเป็นหลังคาโดมติดๆ กัน สามารถขึ้นไปได้ แถมยังมีฉากหลังเป็นบ้านเรือนสไตล์จอร์เจียสุดเก๋ ถือเป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวจอร์เจีย สำคัญ มีบุคคลสำคัญระดับโลกเดินทางมากันมากมายเพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศการอาบน้ำเมื่อหลายร้อยปีก่อน
โรงอาบน้ำที่เก่าแก่ที่สุดคือ โรงอาบน้ำหมายเลข 5 (Bathhouse #5) ส่วนโรงอาบน้ำที่อยู่ติดกันก็คือ โรงอาบน้ำของราชวงศ์ (Royal Bath : Bathhouse #4) ที่เคยใช้เป็นโรงอาบน้ำของกษัตริย์ในอดีต และจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะก็คือบริเวณ โรงอาบน้ำ Orbeliani Baths หนึ่งในโรงอาบน้ำที่โดดเด่นด้วยซุ้มทางเข้าด้านหน้าที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
พิกัด :
Booking.com
9.น้ำตกเลกทากิวี (Leghvtakhevi Waterfall)
น้ำตกเลกทากิวี เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของ ทบิลิซี ก็ว่าได้ โดยน้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองเก่า เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ใครที่สนใจมาชมน้ำตกนี้ สามารถเดินมาจากบริเวณโรงอาบน้ำโบราณอะบาโนตูบานีได้ โดยตลอดเส้นทางการเดินมายังน้ำตกนี้จะมีสถาปัตยกรรมสไตล์จอร์เจียที่สวยงาม และมีการแสดงที่น่าสนใจของศิลปินให้ชมกันเป็นระยะๆ สำหรับบริเวณน้ำตกจะมี Golden Bridge หรือ สะพานข้ามลำธาร ที่มีกุญแจสีทองคล้องกันจนเต็มสะพานด้วย
พิกัด :
Booking.com
แน่นอนว่านอกจากที่เที่ยวทบิลิซี สำคัญทั้ง 9 แห่งที่เราคัดมาฝากนี้ ที่นี่ก็ยังมีอีกหลากสถานที่รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสความเป็นจอร์เจียด้วยตัวเอง บอกเลยว่าใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวจอร์เจีย ต้องได้ไปเก็บภาพและความประทับใจที่ทบิลิซีกันให้ได้นะ
ข้อมูลจาก : mushroomtravel.com
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)