รถทัวร์มาถึงในช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 ธันวาคม ต้องนั่งรถโดยสารเที่ยวแรก โดยมีรถสองแถว และมอไซต์รับจ้าง สุดแล้วแต่จะเลือกใช้บริการ ส่วนผมเลือกมอไซต์รับจ้าง เพราะรีบขึ้นไปเก็บบรรยากาศยามเช้าบนเขื่อน ภาพขวา อนุสาวรีย์พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ประดิษฐาน ณ จุดชมวิว เขื่อนรัชชประภา
บนจุดชมวิว ในเช้าที่ท้องฟ้าแจ่มใส แต่น่าเสียดายที่ไร้หมอก แต่ก็มองเห็นทิวเขาสุดไกลตา
จุดชมวิวบนเขื่อนมีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย ในช่วงที่ไปดอกประดู่แดงกำลังเบ่งบาน ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ ไม่นานนักเพื่อนร่วมทริปที่เดินทางมาจากภูเก็ต ก็มาถึงก็รีบไปกันที่ท่าเรือกันเลย และรูปด้านล่างคือเหล่าผู้ร่วมทริป
พลขับเรือก็นำพวกเราฝ่าผืนน้ำสีเขียวของเขื่อนมุ่งสู่แพคลองคะ มีสองข้างทางเป็นภูเขาสลับซับซ้อนกันไป ไม่นานก็เดินทางมาถึงแพคลองคะ
มีความวุ่นวายเล็กๆ เนื่องจากการประสานงานจองที่พักที่ผิดพลาด ทำให้ต้องนั่งรอห้องพักว่าง ระหว่างนี้ก็นั่งดูปลา และสุดท้ายก็ได้ห้อง เพื่อนซื้อไวน์มา ไม่มีตู้เย็นไว้แช่ ก็เลยต้องอาศัยวิถีธรรมชาติ
ผมและกลุ่มผู้ร่วมทริปเลือกพักผ่อนที่ห้องพัก ในวันนี้ พูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ช่วงระยะเวลาที่ห่างหายกันไป ตกเย็นก็มีอาหารเย็นจากทางแพให้รับประทาน น่าเสียดายที่แบตกล้องหมด เลยไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ ตกค่ำหน่อยที่แพคลองคะ มีการแสดงหนังตะลุงเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันด้วยครับ
ในช่วงเช้าหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จ เราก็ออกกันไปชมธรรมชาติ พบทั้งชะนีและนกเงือก แต่กล้องไม่สามารถถ่ายเก็บมาได้ ไกลเกินหน่อย
บรรยากาศที่พักแพคลองคะในเช้าของวันที่ 23 ธันวาคม บรรยากาาศแตกต่างจากเมื่อวาน ครึ้มฟ้าครึ้มฝน
และก็ถึงเวลาเดินทางกลับ ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปราย
ไม่พลาดที่ต้องแวะเขาสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย ฉายาที่เขาขนานนามกัน เป็นแหล่งสุดท้ายก่อนขึ้นฝั่ง และท้ายสุดก็เปียกจนได้ จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทิ้งท้ายไว้ที่เขาสามเกลอ แล้วเจอกันใหม่ เขาสก...
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)