ขอกราบสวัสดีเพื่อนๆสมาชิก govivivgo ก่อนนะคะ ก่อนอื่นเราขอออกตัวแรงแบบสาววัย 30 นิสนึง ว่าไม่เคยรีวิวที่ไหนมาก่อนเลย ที่นี่เป็นที่แรก หากใช้คำพูดที่ไม่สุภาพหรือผิดพลาดประการใดต้องขอกราบแทบอกเพื่อนๆสมาชิกไว้ด้วยนะคะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ คือว่าจริงๆแล้วทริปนี้เราจะไปกับพี่เราแค่ 2 คน เพราะไปตรงกับวันเกิดเราพอดี แต่...พี่เราบอกว่าจะสนุกหรอไปกัน 2 คน คุณเค้าก็เลยไปชวนเพื่อนสมัยมหาลัยมาเที่ยวด้วย (เพื่อนนางก็ใจง่ายเกิ๊น ชวนปุ๊ปไปปั๊ป ให้จองตั๋ว จองห้องเลย ดีอ่ะ ไม่เรื่องมาก เที่ยวกะคนแก่ก็งี้ อุ๊ปส์!) พอจัดการเรื่องตั๋ว เรื่องที่พักเรียบร้อย ก็มานั่งลิสว่าใครอยากไปไหนบ้าง แล้วเราก็มานั่งทำสรุปตารางคร่าวๆไว้ว่าวันไหนไปที่ไหนบ้าง กินอะไร Shopping ที่ไหน ตามรูปเลยค่ะ (ไม่ได้ไปตามตารางเป๊ะๆนะคะ)
***อย่าเพิ่งแปลกใจไป ว่าทำไมในตารางมีแค่ 4 วัน แต่ด้านบนรายละเอียดเป็น 5 วัน เดี่ยวบอกตอนท้ายค่ะ
และแล้ววันที่เลข 3 มาเยือนนนนน #ร้องให้หนักมาก #เอามือทาบอก พอๆๆๆ เริ่มเพ้อละ วันนี้เป็นวันที่เราจะไปเที่ยวแล้ว เย้ๆๆๆๆ เรานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิประตู 9 เพื่อเช็คอินกันค่ะ อ่อลืมบอกไปเราบินสายการบิน Emirates ทั้งไปและกลับเลยค่ะ (สายการบินมันทำเราค่ะ เดี่ยวเล่าตอนท้ายๆอีกที ว่ามันทำไม) กว่าจะเข้าไปเจอคนอื่นได้วนถ่ายรูปกันอยู่นั้นแหละ และรูปที่พี่ถ่ายให้เรา และรูปที่เราถ่ายให้พี่ #มองบน (พยายามจะให้รูปออกมาแบบ แฟชั่นสนามบิน เหมือน Idol เกาหลี จบกัน) พอๆๆนอกเรื่องมาก เรา 2 ศรีพี่น้องก็เจอสมาชิกกันเรียบร้อยทุกคน เราก็ไปทำการเช็คอินกันค่ะ (Row T) จากตรงนั้นเรียบร้อยเราก็ไปเดินเล่น Duty Free เพื่อฆ่าเวลากันค่ะ แต่เดินกันสักพัก ก็ไม่ได้อะไรกันเลย พวกเราเลยเดินไปนั่งหาอะไรรองท้องกันเบาๆก่อนขึ้นเครื่องละกัน ใครที่เดินทางบ่อยแล้วใช้เครื่อข่ายของทรู จะรู้ดีว่า แค่เรากดเบอร์ก็รับสิทธิ์กินฟรีละ ทั้ง Burger King Pizza เราจัดมาหมดทุกอย่างที่เค้าบอกว่า ถ้าใช้ทรูแล้วได้ฟรี (ไม่ได้อวยทรู อะไรเลยนะ) ใกล้เวลาเครื่องออกละเราก็ได้ไปที่เกทกันค่ะ กว่าจะเดินถึง วนถ่ายรูปอยู่นั้นแหละ เพราะทริปนี้เรามีตากล้องส่วนตัว (มันดีแบบนี้นี่เอง)
ระหว่างทางไปเกท
ถึงเกทละค่ะ เกทของเราวันนี้ E4
พวกเราเข้ามานั่งรอในเกทแล้วค่ะ วันนี้เครื่องดีเลย์ไปประมาณ 20 นาทีค่ะ
ตัดบทมาบนเครื่องเลยดีกว่าค่ะ อย่างที่บอกเรานั่งสายการบิน Emirates ทางสายการบินใช้เครื่อง A380 เป็นเครื่องใหญ่ ที่นั่งจะเป็น แบบ 3-4-3 ส่วนอาหารบนเครื่อง เรากับพี่เลือกกันคนละอย่าง เราเลือกเมนูไก่ไก่ส่วนพี่เราเลือกเมนูปลา (ตามรูป)
และแล้ว พวกเราก็มาถึงกันแล้วค่ะ ในการบินครั้งนี้ถือว่าใช้เวลาดีทีเดียวค่ะ 2 ชั่วโมงนิดๆเองก็ถึงสนามบิน Hong kong International airport (ตอนอยู่บนเครื่องเราขอ Immigration มากรอกข้อมูลจากแอร์สาวก่อนที่เครื่องจะลง เพื่อไม่เสียเวลา) หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองมาแล้วก็มารอรับกระเป๋ากัน
รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ออกมาซื้อบัตรรถไฟสายด่วน Airport Express (AE) + บัตร OCTOPUS การนั่งรถไฟใช้เวลาเพียง 24 นาที *วิธีการซื้อตั๋ว AE พอรับกระเป๋าเดินทาง ออกมาแล้ว ให้มองหา Counter สีเขียว ที่เขียนว่า Airport Express แล้วก็ไปซื้อตั๋วกับพนักงานได้เลย หรือจะซื้อผ่านตู้ขายบัตรก็ได้เหมือนกัน พวกเราซื้อแบบ Group 4+2 เฉลี่ยคนละ HK $67+ บัตร OCTOPUS คนละ HK $150 (ค่ามัดจำบัตร HK $50 จะได้คืนตอนคืนบัตร) *** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับค่าเงิน
พวกเรานั่ง AE ไปลง KOWLOON แล้วต่อ TAXI ไปโรงแรมกันค่ะ
พวกเราพักที่โรงแรม H1 HOTEL ทั้ง 3 คืน โรงแรมนี้อยู่แถว Mong Kok (ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะอยู่ใกล้แหล่ง Shopping และ MTR) ห้องพักเราจองแบบ Family ทั้ง 2 ห้องเลย นอนห้องละ 3 คน ห้องที่นี่ใหญ่พอสมควรเลย
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย ก็ขึ้นไปเก็บของกันที่ห้องพัก เพื่อที่จะไปหาของอร่อยๆกินกันค่ะ จากหัวเรื่องที่บอกว่า “เที่ยวฮ่องกงของคนวัย 30 และ 30+ โดยมีตุ๊ดเป็นคนนำเที่ยว” ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่ตุ๊ดของเราจะได้ออกโรง #เกย์ฮ่องกง (ถ้านางมาอ่านจะโดนด่ามั้ยเนี่ย 5555) ขอใช้สรรพนามแทนพี่เราว่า นาง,ตุ๊ดและไกด์สาวนะคะ เพราะชีวิตจริงเราก็เรียกนางแบบนี้อยู่แล้ว
นางก็เริ่มทำหน้าที่ไกด์สาวทันที นางพาไปกินของอร่อยที่ห้าง Langham Place (ใกล้กับที่พัก) นั้นก็คือร้าน Chee Kei ร้านโจ๊กปู (อันเลื่องชื่อ) พวกเราสั่งอาหารกันอย่างบ้าคลั่งจริงๆเพราะหิวมาก ทั้งโจ๊กปู ข้าวมันไก่ บะหมี่(จำไม่ด้ว่าราดหน้าด้วยอะไร) หลังจากที่ได้กินอาหารอันเลอเลิศตามที่ไกด์สาวได้บอกไว้ พวกเราก็ไปเดินย่อยแถวๆนั้นกันค่ะ ไม่นานก็เข้าที่พัก คืนนี้หลับฝันดี พรุ่งนี้เช้ามาเจอกันต่อนะคะ
เมื่อคืนเรานัดเจอกัน 8 โมงเช้าที่ล็อบบี้ วันนี้เราจะไปไหว้พระ ขอพรกันค่ะ เริ่มกันที่วัดแรก วัดหวังต้าเซียน (Wong tai sin temple) วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องขอคู่ ใครเคยขอแล้วได้ผลแสดงตัวด้วยนะคะ อิอิ พวกเรานั่งMTR -> Mongkok -> Wang Tai Sin (Exit B2) มาเช้าๆก็ดีนะคะ คนไม่เยอะดี
หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อย ไกด์สาวก็พานั่ง MTR กลับมาที่ Mongkok (Exit B2) เหมือนเดิม เพื่อมากินอาหารเช้า ร้านนี้ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษนะคะ เป็นร้านบะหมี่ลูกชิ้น (ปลา ,หมู,เนื้อ) ไกด์สาวเรียกร้านป้ายดำ (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ ขอยืมรูปจาก เพจ Hongkong Fanclub)
เติมพลังเรียบร้อย ไกด์สาวก็พาไปต่อที่ Repulse bay ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิ่มกัน นั่ง MTR-> Mongkok -> Central (Exit A) จะเห็น Exchange Square กับ Bus Terminus ออกไปข้างนอก ก็จะเห็นบันไดเลื่อน ให้ขึ้นบันไดเลื่อน เพื่อข้ามไปอีกฝั่ง เมื่อข้ามไปอีกฝั่ง ก็จะเป็น Exchange Square ให้ลงไปด้านล่าง จะเป็น Bus Terminas รถบัสสาย 6 6A 6X 260
พวกเราอยู่ที่นี่นานเลยค่ะ ถ่ายรูปกันเพลินมาก แถมยัง Shopping กันอีก (ห้างตรง Repuls bay)
ประมาณบ่าย 2 ไกด์สาวก็พามา Shopping กันที่ Causeway bay ค่ะ เพราะนางมีภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ต้องทำ นั้นก็คือ ซื้อชุดเด็กให้กับเพื่อนที่ทำงานนาง เรามากันที่ ห้าง Hysan Place ช็อปกันอย่างบ้าคลั่ง แล้วก็มา Shop ต่อกันที่ Tsim sha tsui เพื่อฆ่าเวลา เพราะเราจะไปดู Symphony of Lights (SOS) กันต่อ
ดู SOS เสร็จก็มา Shop กันอีก เงินไม่หมด เราไม่กลับ เย้! วันนี้เราฝากท้องไว้กับ Yoshinoya กัน
เช้านี้เริ่มสตาร์ทกันที่ 8 โมงเช้าเหมือนเดิมค่ะ เช้านี้เราจะกินอาหารเช้าที่เป็นที่นิยมของคนไทย ร้าน Hung Lee (มีเมนูภาษาไทย)
หน้าร้าน Hung Lee
ตอนพวกเราเข้าไปในร้าน มีแต่คนไทย นึกว่าอยู่เยาวราช 55555
หลังจากกินเสร็จเราก็ไปในสถานที่แรกของวันนี้เลย วัดแชกงหมิว (Che kung temple) ไหว้พระขอพรกันสักหน่อย จริงๆเรามาแก้ชงด้วย เพราะปีนี้เป็นปีชงของเรา พวกเราอยู่กันสักพักก็ไปที่อื่นกันต่อ
ที่ต่อมาก็คือ Hong kong DisneyLand เราจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)