ทริปนี้เราจะพาไปเที่ยวภูเก็ตแบบ 3 วัน 2 คืน โดยมีที่เที่ยวหลักคือเกาะไม้ท่อนนะคับ สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมานี้ตั๋วโปร ในประเทศออกมาเยอะมาก มือมันเลยลั่นกดจองตั๋วไป-กลับ ภูเก็ตแบบงงๆ กับแอร์เอเชีย ในใจก็คิดว่าเออ!! จองไปก่อนแหละ จะไปเที่ยวไหนบ้างเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที เพราะตั๋วโปรที่จองไปนี่กว่าจะได้บินอีกทีก็ต้นปีหน้านู้นนน นานมาก นานจนลืมไปเลยว่าจองตั๋วไปภูเก็ตไว้ พอใกล้ๆ จะเดินทางก็ต้องเริ่มหาที่พัก เริ่มวางแผนท่องเที่ยวซิคับ
วันแรก : check in ที่พักที่ Foto Hotel ไปเดินเที่ยวหาดกะตะ หาข้าวเย็นกิน
วันที่สอง : ไปเที่ยวเกาะไม้ท่อน หรืออีกชื่อคือ Honeymoon Private Island
วันที่สาม : นอนเล่น ตื่นสายๆ check out ตอนเที่ยง หาซื้อของฝาก แล้วเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ
หลังจากลงเครื่องที่ภูเก็ตนะคับ ก็นั่งรถจากสนามบินเข้าที่พักเลย เราจองที่พักไว้ที่ Foto Hotel ซึ่งตัวโรงแรมจะอยู่ใกล้กับหาดกะตะ เลยกะว่า check in เข้าที่พักแล้วก็ค่อยออกมาเดินเล่นที่หาด
ห้องพักที่เราเลือกเป็นแบบโอเชี่ยนวิว สามารถมองเห็นวิวทะเลจากระเบียงห้องพักได้ พอเปิดเข้ามาในห้องก็จะเจอกับหมีตัวใหญ่ลายขาว-ดำ รอต้อนรับอยู่ภายในห้อง ซึ่ง Foto Hotel นั้นตั้งอยู่บนเนินเขาหาดกะตะ ทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลแบบพาโนราม่ารอบๆ หาดกะตะได้ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่มองเห็นวิวทะเลมุมสูงได้สวยงามทีเดียว
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของที่ Foto Hotel ก็คือ Wording คำพูดของช่างภาพที่มีชื่อเสียงบนผนังห้องซึ่งจะมีอยู่ทุกห้อง อย่างในห้องที่เราเข้าพักจะเป็นคำพูดของ Matt Hardy
หลังจากเข้าห้องพักไปเก็บของ นอนเล่น เดินสำรวจโรงแรม และขึ้นไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้ว ก็ได้เวลาแดดร่มลมตก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปหาข้าวเย็นกินพอดี กะว่าจะไปหาอาหารทะเลกินกันที่แถวๆ หาดกะตะ ก่อนกินเราก็มาเดินเล่นที่หาดกันก่อน ที่ Foto Hotel มีบริการรถรับส่งจากโรงแรมไปที่หาดกะตะด้วยนะคับ
หาดกะตะ เป็นหาดที่มีชาวต่างชาติมาเที่ยวเยอะมาก เม็ดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส เล่นน้ำสนุก ล้อมรอบด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร รวมถึงโรงแรม แดดค่อนข้างจัดเลยทีเดียว ขนาดว่าเราออกมาเดินเล่นในช่วงบ่ายแก่ๆ แล้วยังร้อนอยู่เลย ถ้าไม่ทาครีมกันแดดมามีหวังตัวไหม้แน่นอน ที่นี่เหมาะกับการอาบแดดและกิจกรรมทางน้ำทุกชนิด โดยเฉพาะการเล่นเซิร์ฟ
เดินเล่นที่หาดกะตะอยู่สักพัก เผลอแป็บเดียวพระอาทิตย์ก็ตกซะแล้ว ได้เวลาไปหาข้าวเย็นกินจริงๆ แล้วหล่ะคับ หลังจากกินข้าวเสร็จก็โทรเรียกให้รถของทางโรงแรมมารับกลับเข้าที่พักเลยคับ มีซื้อขนมเข้าไปกินต่อนิดหน่อย เราจะกลับไปเตรียมของใช้จำเป็นสำหรับการไปเที่ยวเกาะไม้ท่อนในวันพรุ่งนี้
วันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ต วันนี้เราจะไปเที่ยวกันที่เกาะไม้ท่อนกันนะคับ วิธีการไปเที่ยวเกาะไม้ท่อนนั้นเราได้ซื้อทัวร์กับทาง Love Andaman เอาไว้ ตามโปรแกรมนะคับ จะมีรถตู้มารับที่โรงแรมที่พัก ตอนประมาณ 9 โมงกว่าๆ โดยเราจะต้องนั่งรถไปขึ้นเรือที่ ท่าเรือน้ำลึก แหลมพันวา
ระหว่างรอเวลาลงเรือก็เดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ ท่าเรือไปเรื่อยๆ
พอได้เวลา ไกด์จะพาเราไปลงเรือสปีดโบ๊ทเพื่อมุ่งหน้าสู่เกาะไม้ท่อน
ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 20 นาที จากท่าเรือน้ำลึกในภูเก็ต และก็ถึงแล้วคับ ท่าเรือเกาะไม้ท่อน วันที่เรามาเที่ยวเนี้ยแดดแรงมากคับถ้าไม่ทาครีมกันแดดนี่รับรองได้มีผิวสีแทนกลับบ้านแน่นอน และแน่นอนแดดแรงขนาดนี้ฟ้าก็ต้องเปิดซิคับ ฟ้าใสขนาดนี้ถึงแดดแรงก็สู้ไม่ถอยนะ เดินถ่ายรูปได้ตลอดทั้งวัน อากาศดีเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง
เกาะไม้ท่อน (Mai Ton Island) เป็นเกาะเล็กๆ ที่เงียบสงบบนฝั่งอันดามัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต มีหาดทรายขาวยาว น้ำทะเลสวยใสจนสามารถมองเห็นฝูงปลาสวยงามหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นปลาเสือ ปลาสิงโต ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน ที่มาของชื่อ "ไม้ท่อน" นั้นได้มาจากภาพถ่ายมุมสูงที่ถ่ายลงมาแล้วมองเห็นเกาะนี้มีลักษณะเหมือนกับท่อนไม้ แต่จะให้เรียกว่าเกาะท่อนไม้นั้นมันฟังดูไม่เพราะเท่าไร จึงปรับเปลี่ยนจนมาลงตัวที่ เกาะไม้ท่อน
การเดินทางไปเกาะไม้ท่อน ปัจจุบันเกาะไม้ท่อนยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักค้างแรมบนเกาะได้ ซึ่งการมาเที่ยวจะเป็นแบบเช้าไปเย็นกลับเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาเที่ยวเกาะไม้ท่อน สัมผัสความงดงามของท้องทะเลและหาดทรายขาว สามารถใช้บริการทัวร์ของบริษัท Love Andaman ซึ่งเป็นแพคเกจเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ และอีกหนึ่งบริษัท คือ Discover Catamaran ผู้ให้บริการเรือยอร์ชนำเที่ยวเกาะไม้ท่อนในราคาพิเศษ
เมื่อมาถึงเกาะแล้วนะคับ ไกด์จะปล่อยให้เราไปพักผ่อนตามอัธยาศัย พร้อมกับนัดเวลาสำหรับคนที่จะออกไปดำน้ำดูปะการัง โดยเวลาที่จะใช้ดำน้ำก็ประมาณ 45 นาทีคับ ส่วนใครที่ไม่อยากไปดำน้ำก็สามารถนั่งเล่น นอนเล่น เดินถ่ายรูปแบบชิลๆ อยู่ที่เกาะได้เลย สำหรับเราทริปนี้ไม่ได้ออกไปดำน้ำนะคับ เลยมีเวลาเดินถ่ายรูปสำรวจเกาะไม้ท่อนได้อย่างเต็มที่
ตรงชายหาดมีเตียงผ้าใบไว้ให้นั่งเล่นนอนเล่นด้วยนะคับ ตรงนี้นี่ตอนกลางวันร้อนมากไม่มีใครนั่งเลย แต่พอช่วงบ่ายๆ ไม่ค่อยมีแดดแล้ว เตียงผ้าใบนี่เต็มทุกตัวนะคับ มีคนมาจับจองนั่งเล่นชมวิวกันเต็มไปหมด
ระหว่างรอเวลากินข้าวกลางวัน และรอเพื่อนๆ ร่วมทริปที่ออกไปดำน้ำกลับมา เราก็มาเดินสำรวจเกาะกันคับ อีกฝั่งหนึ่งของเกาะจะมีมุมโขดหิน มีชิงช้าที่แขวนอยู่กับกิ่งไม้ อยู่ด้วยนะคับ ซึ่งเป็นมุมที่ค่อนข้างเงียบไม่ค่อยมีใครเดินมาถึง เราเลยลงเล่นน้ำ นั่งเล่น นอนเล่น หามุมถ่ายรูปตรงนี้อยู่นานเลย
คลื่นลมทะเลที่เกาะไม้ท่อนถือว่าแรงอยู่พอสมควรนะคับ ดูได้จากคลื่นที่ซัดกระแทกเข้ากับโขดหินค่อนข้างแรงเลยทีเดียว กว่าจะได้รูปนี้มานี่คือมีเปียกอ่ะคับ
บริเวณหน้าชายหาดสามารถลงเล่นน้ำได้ตามปกตินะคับ น้ำทะเลใสมากๆ ที่เกาะไม้ท่อนน้ำทะเลจะเป็นสีเขียวมรกต
ที่เกาะไม้ท่อนแห่งนี้มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากจะถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด และนี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งบนเกาะที่เราถ่ายภาพมาฝากนะคับ กิจกรรมบนเกาะก็จะมีพายเรือคายัค, วอลเล่ย์บอลชายหาด, เล่นน้ำทะเล ดำน้ำหน้าเกาะ และขึ้นไปจุดชมวิวของเกาะ
หลังจากกินข้าวกลางวันเรียบร้อยแล้วนะคับ ช่วงบ่ายกว่าๆ ก็ได้เวลาไปดูจุดชมวิว การเดินขึ้นไปนั้นก็ไม่ลำบากมาก เดินขึ้นบันไดไปตามไหล่เขาไม่กี่นาที สิริรวมบันได 40 ขั้น ก็ถึงแล้ว ด้านบนจะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเกาะต่างๆ มากมาย เช่น เกาะพีพี เกาะภูเก็ต เกาะอื่นๆ อีกหลายเกาะ วิวสวยมากคับ
กลับลงมาจากจุดชมวิว เราก็เดินไปหามุมถ่ายรูปกันต่อนะคับ
มุมเงียบสงบบนเกาะไม้ท่อน ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเดินมาถึงมากนัก สามารถลงเล่นน้ำได้นะคับ คลื่นแรงดีเล่นโต้คลื่นสนุกเลย เราลงเล่นน้ำกันตรงนี้แหละคับ เล่นอยู่คนเดียวเลยจริงๆ
เล่นน้ำเพลินมากคับรู้ตัวอีกทีก็บ่ายสามกว่าๆ แล้ว ได้เวลาที่เราต้องบ๊ายบายเกาะไม้ท่อนกันแล้วหล่ะคับ เรากลับออกมาจากเกาะประมาณสามโมงครึ่ง ทริปนี้ฟินมากๆ กับการได้ไปเยือนเกาะสวย น้ำทะเลใส ในวันที่อากาศดีขนาดนี้ ที่เกาะไม้ท่อนนี่ส่วนตัวเราชอบเลยนะคับ เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก แถมยังเดินทางสะดวก ไม่เหนื่อยด้วย ไม่ต้องออกจากฝั่งไปไกล น้ำทะเลก็ใสมาก นอนเล่นเพลินๆ ชมวิวชิลสุดๆ
ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีเราก็กลับมาถึงท่าเรือน้ำลึกกันแล้วคับ มีรถตู้ไปส่งที่โรงแรมตามเดิมนะคับ สำหรับการไปเที่ยวเกาะไม้ท่อนแบบ One Day Trip ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ขอลากันไปด้วยภาพจากท่าเรือก็แล้วกัน ขอบคุณที่ติดตามชมรีวิวของเรานะคับ แล้วเจอกันใหม่สำหรับทริปหน้า บายคับ :)
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)