ทริปของเราเริ่มต้นตรงกับสุดท้ายของปีเลย 31 ธ.ค.2560 เราตื่นกันแต่เช้าแล้วออกเดินทางไปสนามบิน ทริปนี้เราเลือกเดินทางโดยสายการบินไทย บริการดีเหมือนเคย ต้นทางของเราคือสนามบินสุวรรณภูมิบินจากกรุงเทพไปลงที่สนามบินเชียงใหม่
พอถึงสนามบินเชียงใหม่ก็มีรถตู้จากโรงแรมมารับเราแล้วเดินทางต่อไปปายใช้เวลาโดยประมาณคือ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เราเตรียมตัวรับมือกับการเดินทางที่ต้องเจอคือ"โค้ง"พันกว่าโค้ง ย้ำว่า พันกว่าโค้ง*** วิธีของเราคือกินยาแก้เมารถกันคนละ1เม็ดก่อนเครื่องลง แล้วเราก็เตรียมตัวขึ้นรถตู้ที่จองไว้ของทางโรงแรม นั่งรถไปดูทางคร่าวๆ ดูพี่คนขับรถไว้ใจได้ขับโอเคสักพักเรานอนยาวเลยจ้าา นอนไปได้ประมาณชั่วโมงกว่าๆตื่นมา5นาทีข่มตาหลับต่อแล้วไม่กี่นาทีก็ขึ้นที่พักของเราแบบไม่เมารถเลยสักนิดเดียว ถึงแล้วที่พักแสนสวยของเรา Reverie Siam บรรยากาศรอบๆดูสวย คลาสสิคตั้งแต่ทางเข้า มีกลิ่นอายสไตล์ที่พักแบบเมืองนอกกันเลยทีเดียว
วันนี้เราว่างทั้งวันเราเลยเข้าพักที่ห้องประมาณชั่วโมงนึง สักพักเกิดอยากออกไปเที่ยวใกล้ๆมี หมู่บ้านจีนยูนนาน จะรออะไรให้โรงแรมเรียกรถให้แบบเหมาๆไปกัน2คน สะดวกสบายดีจริงๆ เริ่มต้นเที่ยวด้วยการทำบุญส่งท้าย ปีเราแวะไหว้พระทำบุญกันที่ วัดน้ำฮู
ก่อนที่จะเลยไปหมู่บ้านจีนยูนนาน ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึก ขายอาหาร ขายชา มีของกินหลายอย่างให้เลือกให้ชิม และก็มีร้านเช่าชุดจีนหลากหลายแบบราคาก็ไม่แพงเลยเช่าชุดละ 100 บาทเอง ด้วยความที่ยังไม่เคยใส่ชุดจีนในชีวิตเราเดินเข้าไปปุ๊บเห็นชุดสีแดงช่างเหมาะเจาะกับสายตาตรงดิ่งไปชี้นิ้วเอาชุดนี้ค่ะ เข้าไปเปลี่ยนชุด ทำผมแป็บเดียวจริงๆ ไม่เกิน5นาที ไวมากกกก!! จ่ายตังค์ก็เดินออกมาถ่ายรูปตามมุมต่างๆ มีมุมให้ถ่ายเพียบเลย รูปที่ได้เลยมีความเป็นฮองเฮา อยู่มากกกกก!!ด้วยความที่หน้าตาก็มีความจีนเยอะมากอยู่เป็นทุนเดิมทุกอย่างเลยดูเข้ากันเป็นอย่างดี ประหนึ่งไปถ่ายพรีเวดดิ้งเลยยย
หลังจากที่เราอยู่ที่หมู่บ้านจีนยูนนานกันสักพัก มืดหน่อยๆเราก็เลยไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินปายกัน คนเยอะมากกกกก ของกิน ของที่ระลึกก็เพียบ เดินเล่นเพลินมากกกก!! ชอบมากก็หม่าล่า กับน้ำกระบอกเมืองปายเนี่ยแหละอย่าถามว่าเติมไปกี่รอบจำไม่ได้ ชิมไปหลายน้ำมาก แถมราคาก็แสนถูกเติมครั้งละ10บาทเอง
เดินไปกินไปหาร้านไฮไลต์ก็คงจะเป็นร้านขนมจีนนั่งยอง ลองสักหน่อย...เฮ้ยยยอร่อยดีแฮะ คือเป็นแค่ขนมจีนน้ำยาไม่มีลูกชิ้นใดๆทั้งสิ้นแต่อร่อยมากกก เราเป็นพวกกินเส้นเฉยๆไม่ได้เลยสั่งไข่ต้มมาเพิ่ม3ฟองกินใส่ผัดนิดหน่อยโอ้โหเข้ากันดี๊ดี อยากรู้ต้องไปลองชิม!!! อีกอย่างที่ไปแล้วต้องลอง(ตามที่เคยไปอ่านรีวิวมา) คือข้าวปุกงาดำ รสชาติก็เหนียวหน่อย หวานๆ อุ่นๆเดินไปทานไปก็เข้ากับบรรยากาศดี
เดินกันจนเมื่อยได้เวลากลับเข้าที่พัก อาบน้ำนอน!! โรงแรมของเราก็มีจัดงาน Count Down และจุดพลุที่ศาลาริมน้ำของโรงแรม แต่ด้วยความที่เราสองคนตะลอนเที่ยวกันซะเพลินเลยรู้สึกง่วงเรา2คนเลยหลับเพลินเลยตื่นตอนที่เขาจุดพลุเยอะๆจนเราตื่นมาเก็บภาพพลุอยู่ในห้องแทน....ก็ยังสวยดี
รุ่งเช้าของปี 2561 เราสองคนตื่นกันแต่เช้าเพื่อที่จะขึ้นไปที่จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล อากาศเย็นสบายๆๆไปนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ30นาทีก็จิบชาร้อนรอพอฟ้าสางเราก็ไม่รอช้าเตรียมกล้องถ่ายรูปกันรัวๆๆ คนเยอะแต่ก็ไม่ถึงกับเบียดเสียดอะไร ดูชิวๆสบายๆ ดูเป็นการเริ่มต้นของปีได้สดใสดีจริง
พอชมทะเลหมอกจนพอใจเราก็เดินทางกลับมาทางอาหารเช้าที่โรงแรมเป็นแบบ A La Carte เลือกในเมนูตามชอบใจ ต้อนรับวันใหม่ของปีได้อิ่มท้องจริงๆ พอทานเสร็จเราก็พอมีเวลาอาบน้ำอีกรอบ
หลังจากอาบน้ำสดชื่นเราก็พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวตามโปรแกรมที่เราเลือกไว้ เริ่มต้นทัวร์ตอนบ่ายกว่าๆๆ เราเริ่มต้นด้วยการไปทำบุญไหว้พระกันที่วัดพระธาตุแม่เย็น
เป็นวัดพระจำหมู่บ้านแม่เย็น พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว สง่างามมาก บรรยากาศ รอบๆก็เป็นวิวทิวทัศน์ที่ สวยงามมากกกก ใครไปอย่าลืมแวะไหว้สักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตนะค่ะ ระหว่างทางขึ้นไปกราบสักการะก็ต้องเดินขึ้นบันไดีไปความรู้สึกว่าน่าจะเป็นร้อยขั้นอาจด้วยเพราะแดดที่เปรี้ยงตลอดตอนบ่าย แต่ด้วยแรงศรัทธาจะกี่ขั้นเราก็จะพยายามขึ้นไปจนได้ ขึ้นไปถึงกับต้องพักหายใจสักครู่เลยยย!!
หลังจากที่เราทำบุญกันเสร็จก็แวะร้าน Coffee in Love ร้านกาแฟชื่อดังของเมืองปาย นั่งกินกาแฟ ซึมซับบรรยากาศสักครู่ เราก็เดินไปเที่ยวกันต่อที่ มาริปาย บรรยากาศโดยรอบถือว่าร่มรื่นดูสดชื่นมาก มีชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่มากกก ใครพอมีเวลาแวะถ่ายรูปก็ได้นะค่ะ ที่นี่มีบริการที่พัก ร้านอาหารไว้บริการด้วยค่ะ เราแวะถ่ายรูปกันสักพักเราก็ไปเที่ยวต่อ ส่วนที่เราจะไปต่อก็ถือว่าเป็นที่ท่องเที่ยวแนะนำในปายใครไม่มีนี่ถือว่าพลาดมากกกก!! เหมือนมาไม่ถึงปายยังไงยังงั้นเลยเพราะที่นี่เป็นสะพานไม้ไผ่ ดูเหมือนเป็นการสานต่อๆกัน เราตั้งใจมาดูความมุมานะพยายามในการสร้าง
สะพานแห่งนี้มาก สะพานซึ่งมีชื่อว่า สะพานไม้ไผ่ โขกู้โส่ เรียกง่ายๆว่า สะพานบุญ เป็นสะพานไม้ไผ่ทอดยาวอยู่เหนือนาข้าวและป่าเขาสีเขียวเชื่อมระหว่างวัดและหมู่บ้าน เดินไปก็ทึ่งในความสามารถ ร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านที่ร่วมมือกันทำจนสำเร็จ และทำให้เรามีโอกาสได้มาเดินบนนี้ แถมที่นี่บรรยากาศดีมากกกก!!
ต่อจากสะพานบุญเราก็แวะ Strawberry Farm มีมุมถ่ายรูปเยอะมากอีกหนึ่งที่แนะนำให้แวะมีของกิน ของฝาก มุมถ่ายรูปสวยๆจัดไว้ให้เพียบบบ
ปิดท้ายทริปของวันด้วยการมา Sunset Picnic สุดแสนจะโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติมากกกกก ที่แห่งนี้เหมือนเป็นที่ลับซึ่งอยากจะกระซิบบอกว่าเดินเข้าไปลึกมากกกก แดดก็เปรี้ยงมาก!!(คือคิดในใจดำแน่ๆงานนี้แต่ไหนๆก็มาล่ะเดินต่อไป สักพักมีพี่พนักงานเดินกางร่มมารับพร้อมผ้าเย็น ค่อยยังชัวร์!!! บรรยากาศก็จะมีแต่ธรรมชาติ ไม่มีใครเลยนอกจากเรา2คนและพี่ พนักงานที่คอยจัดเตรียมสถานที่ให้เรา ความรู้สึกเหมือนการไปนั่งจิบชา Afternoon Set ท่ามกลางธรรมชาติยังไงยังงั้นเลย เราไปถึงประมาณ4โมงครึ่งเกือบๆ5โมง แดงยังเปรี้ยงๆอยู่แต่ด้วยบรรยากาศดีเราเลยนั่งยาวววจนพระอาทิตย์ตกดินช่วงเย็นๆลมพัดเย็นสบายมาก เป็นช่วงที่รู้สึกสบายๆ ส่วนตัวและ Exclusive มากกก!!! ใครมาแนะนำให้ลองสักครั้งคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม รูปเราเยอะมากเลยตั้งใจลงให้ซึมซับบรรยากาศไปกันเรา2คนค่ะ
มื้อเย็นของวันแรกของปีเราจองไว้ที่ห้องอาหาร Silhouettebar ซึ่งอยู่ในโรงแรมของเรานั่นเอง เป็นอาหารสไตล์ยุโรปล้วนๆๆแต่รสชาติไม่ต้องพูดถึงอร่อยทุกจาน เป็นห้องอาหารที่อยากแนะนำให้ทุกคนมาชิม
วันที่ 2 ของปี วันนี้เราชิวมากกก ตื่นสายตามสไตล์วันหยุด อาบน้ำวิวสวยๆๆๆแต่งตัวไปทานอาหารเช้ามื้อนี้จัดเต็ม อร่อยทุกจานเลยโดยเฉพาะ Egg Benedict สไตล์เหมือนกินที่ยุโรปเลย ใครมีโอกาสอย่าลืมมาทาน
เรามีเวลาว่างหลังทานอาหารเช้าอยู่พอสมควรเราก็เลยถ่ายรูปเล่นรอบๆโรงแรม และก็นั่งชิวอ่านหนังสือที่ศาลาริมน้ำ บรรยากาศดีมากกกก ลมพัดตลอดเวลาพร้อมเสียงน้ำจากลำธารที่อยู่เบื้องหน้า ไม่อยากกลับบ้านกันเลยทีเดียววว!! ชอบมากกก
วันสุดท้ายของการพักผ่อนของเราก็ผ่านไปไวเหลือเกิน แต่การมาเที่ยวพักผ่อนที่ปายครั้งนี้ถือว่าโชคดีมากที่อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเป็นบางช่วงแต่เราไม่เจอฝนเลย ที่พักที่เราจองมาก็สวยและบริการดีมากกก อาหารการกินก็ถูกอกถูกใจเราทั้ง2คน ที่เที่ยวต่างๆก็จัดสรรมาให้แบบส่วนตัวทุกอย่างเหมือนมีความลงตัวอยู่ในทริปนี้ที่สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำดีดีให้กับเรา2คน เลือกไม่ผิดจริงๆ ปายอินเลิฟฟฟฟฟฟ......หวังว่ารีวิวปายในครั้งนี้จะสร้างรอยยิ้มให้กับคนอ่านไปกับเราสองคนนะค่ะ สวัสดีปีใหม่อีกครั้งค๊าาาาา
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)