ภูมิภาคโทโฮคุอยู่ทางตอนเหนือของฮอนชู และอยู่ทางทิศใต้ของฮอกไกโด บริเวณพื้นที่นี้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีโดยเฉพาะฤดูหนาวมีหิมะตกในพื้นที่ส่วนใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลายซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโทโฮคุใน ครั้งนี้ govivigo อยากมาเผยแพร่เสน่ห์เหล่านี้ผ่านสกีรีสอร์ทและบ่อน้ำพุร้อนที่มาพร้อมกับทิวทัศน์อันตระการตา อีกทั้งยังสามารถเดินทางจากโตเกียวได้อย่างสะดวกและคุ้มค่าโดยใช้บัตรโดยสารรถไฟ JR EAST
ซาโอะออนเซน สกีรีสอร์ท (Zao Onsen Ski resort)
ซาโอะออนเซ็น สกีรีสอร์ท พิกัดอยู่ที่จังหวะยามากาตะ มีลักษณะพื้นที่ลาดยาวลงเขา และมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกด้วยทิวทัศน์สุดตระการตาเมื่อมองลงมาจากลานสกีด้านบนจะพบกับต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งอันน่าทึ่งอีกทั้งยังเป็นลานสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่มีลานสกีและเส้นทางเล่นสกีมากถึง 26 แห่งที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้ตั้งแต่นักสกีมือใหม่ไปจนถึงนักสกีขั้นสูง คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเร้าใจขณะไถสกีลงเขาด้วยภาพทิวทัศน์น้ำค้างแข็งรูปทรงน่าทึ่งนี้อยู่ตรงหน้า พื้นที่แห่งนี้เป็นรีสอร์ทแบบครบวงจรที่สามารถเพลิดเพลินได้ไม่เพียงแต่การเล่นสกีและกีฬาฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการท่องเที่ยวในแหล่งชุมชน พักผ่อนในโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนแท้ ๆ และผ่อนคลายวันที่เหนื่อยล้าด้วยการแช่เท้าในบ่อน้ำพุร้อน
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) ไปยังสถานียามากาตะ (Yamagata) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นนั่งรถบัสประจำทางจากสถานียามากาตะ (Yamagata) ไปยังสถานีขนส่งซาโอะ (Zao Bus Terminal) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที และเดินต่อไปยังลานสกีประมาณ 10 นาที
อัปปิโคเก็น สกีรีสอร์ท (APPI Snow Mountain Resort)
อัปปิโคเก็น สกีรีสอร์ท เป็นสกีรีสอร์ทยอดนิยม พิกัดอยู่ในที่ราบสูงอัปปิโคเก็น เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวาเตะ เสน่ห์ของที่นี่คือ หิมะที่นุ่มฟูเทียบเท่าได้กับหิมะที่ฮอกไกโด อีกทั้งในปี 2023 ยังได้รับรางวัล “สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นปี 2022” ในงาน “WORLD SKI AWARDS 2022” ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเล่นสกีของโลก ที่นี่มีคอร์สให้เลือกมากกว่า 20 คอร์สที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้ตั้งแต่มือใหม่ หรือ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กไปจนถึงคอร์สวิ่งโลดโผนฝ่าดงต้นไม้สำหรับนักเล่นสกีขั้นสูง และที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนที่นี่คือ “อาหารบนเนินอัปปิ” อร่อยจนได้รับการขนานนามจากนักสกีผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น ราเม็ง, หมี่เย็นโมริโอกะ และเนื้อเสียบไม้แสนอร่อย หากมีโอกาสมาต้องมาลองให้ได้สักครั้ง
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) ไปยังสถานีโมริโอกะ (Morioka) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที หลังจากนั้นขึ้นรถบัสคิตะ (Kita) จังหวัดอิวาเตะที่มุ่งหน้าไปยังอัปปิโคเก็น (Appi Kogen Ski) จากป้ายรถบัสทางออกทิศตะวันตกของสถานีโมริโอกะ (Morioka) หมายเลข 26 ไปลงที่สกีรีสอร์ทใช้เวลาเดินทางประมาณ 60 นาที
นิวโตะ ออนเซ็นเคียว (Nyuto-onsen-kyo Hot Springs)
นิวโตะ ออนเซ็นเคียว คือแหล่งน้ำพุร้อนทั้งเจ็ดที่กระจายตัวอยู่บริเวณตีนเขานิวโตะในอุทยานแห่งชาติโทวาดะ ฮาจิมันไต น้ำพุร้อนแต่ละแห่งล้วนมีแหล่งที่มาของตัวเอง ทำให้คุณภาพของน้ำพุร้อนแต่ละที่แตกต่างกันไป ยิ่งไปกว่านั้นในคาชิระออนเซ็นเคียวก็มีน้ำพุร้อนอีกมากกว่าสิบประเภท ว่ากันว่าการอาบน้ำพุร้อนในบ่อน้ำพุร้อนทั้งเจ็ดนั้นช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ทั้งหมด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าควรไปเยี่ยมชมอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตในฐานะ “น้ำพุร้อนที่ไฝ่ฝัน”และเสน่ห์อันน่าทึ่งของที่นี่คือบรรยากาศของสปาย้อนยุคท่ามกลางป่าบริสุทธิ์ นอกจากนี้อาหารของที่นี่ก็พลาดไม่ได้อีกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น “ยามาอิโมะนาเบะ” เมนูหม้อไฟโด่งดังเสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวมันเทศและผักท้องถิ่น มีรสชาติพิเศษจากซุปมิโซะ มีลูกค้าที่มาที่นี่เพื่อแค่มาทานเมนูนี้อีกด้วย
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟอาคิตะชินคันเซ็น (Akita Shinkansen) ไปยังสถานีทาซาวาโกะ (Tazawako) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จากสถานีขนส่งทาซาวะโกะเอกิมาเอะ (Tazawako Station Bus Terminal) ขึ้นรถบัสอูโกะโคสึ (Ugokotsu bus) ที่มุ่งหน้าไปยังนิวโตะออนเซ็นเคียวใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
คุซัตสึ ออนเซ็น (Kusatsu Onsen)
คุซัตสึ ออนเซ็นตั้งอยู่ในจังหวัดกุนมะ เป็นหนึ่งในสามบ่อน้ำพุร้อนชั้นนำของญี่ปุ่นและเป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่คนญี่ปุ่น สามารถเห็นฉากเป็นวิวหิมะอีกด้วยทั้งน้ีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่นี่เป็นบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติที่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,200 เมตร น้ำพุร้อนมีปริมาณมากและมีคุณภาพสูง โดยพื้นฐานแล้วมีความเป็นกรดอ่อนๆจึงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และว่ากันว่ามีประสิทธิภาพในการต่อต้านสิว บาดแผล และโรคผิวหนังนอกจากน้ำพุร้อนแล้วยังสามารถใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นไปตามถนนที่เรียงรายไปด้วยโรงแรม ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร หรือแช่น้ำพุร้อนที่ห้องอาบน้ำสาธารณะที่นี่มีที่พักให้เลือกเยอะมากไล่เรียงมาตั้งแต่ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นอันเงียบสงบไปจนถึงโรงแรมท่องเที่ยวแสนสนุกที่เหมาะสำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ และรีสอร์ทยอดนิยมสำหรับครอบครัวและคู่รัก ทำให้ที่นี่กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของนักเดินทางหลากหลายกลุ่ม น้ำพุร้อนที่นี่ยังมี “ยูโมมิ” อันโด่งดัง ซึ่งเป็นกระดานขนาด 180 ซม. ที่วัดความชื้นของน้ำพุร้อน เพื่อให้คุณแช่น้ำได้อย่างสบายใจอีกด้วย
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟโจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) ไปยังสถานีทาคาซากิ (Takasaki) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายธรรมดาจากสถานีทาคาซากิ (Takasaki) และลงที่สถานีนากาโนะฮาระ-คุซัตสึกุจิ (Naganohara-Kusatsuguchi Station) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังสถานีขนส่งคุซัตสึ ออนเซ็น (Kusatsu Onsen) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
ซาโอะ ออนเซ็น (Zao Onsen)
คลายเหนื่อยจากการเล่นสกี แช่น้ำพุร้อนบำบัดร่างกายซาโอะ ออนเซ็นตั้งอยู่ในจังหวัดยามากาตะถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งที่ผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัวที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถพบได้ในเมืองน้ำพุร้อนหรือโรงแรมอื่นๆนักเล่นสกีและผู้ชื่นชอบบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อคลายความเมื่อยล้า ลักษณะพิเศษของน้ำพุร้อนที่นี่คือน้ำพุมีกำมะถันที่มีความเป็นกรดสูงซึ่งมีpประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดแข็งตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปวดเส้นประสาท เป็นที่ขนานนามในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนเพื่อความงาม เนื่องจากช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและยังสามารถทำให้ผิวเรียบเนียนและสวยงามหลังอาบน้ำที่นี่
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียวให้นั่งรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) ไปยังสถานียามากาตะ (Yamagata) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที จากสถานีขนส่งยามากาตะ ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังซาโอะออนเซ็น และลงที่สถานีขนส่งซาโอะออนเซ็น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 1 นาทีไปยังสถานที่
สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ JR EAST PASS ที่
www.jreast.co.jp/e/eastpass/
เที่ยวโทโฮคุสุดคุ้มกับ “JR EAST PASS (Tohoku area)”
ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุสุดคุ้มด้วย JR EAST PASS (โทโฮคุ) ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 30,000 เยน และเด็ก 15,000 เยน โดยสามารถใช้บริการจองที่นั่งทั้งชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษอย่างไม่จำกัดรอบในระยะเวลา 5 วันทีกำหนด
คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด:
https://www.jreast.co.jp/multi/pass/eastpass_t.html
สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบการจองใหม่ “JR-EAST Train Reservation”
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021 ระบบจองตั๋วออนไลน์ JR East ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ทำให้การซื้อตั๋วง่ายยิ่งขึ้นระบบนี้อำนวยความสะดวก ในส่วนของการซื้อตั๋ว และจองที่นั่งก่อนเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นได้
จากนั้นจึงค่อยมาออกตั๋วที่ตู้จำหน่ายก่อนขึ้นรถไฟการลงทะเบียน ไม่มีค่าใช้จ่ายและสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ลงทะเบียน
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับบริการจองโปรดศึกษาจากคู่มือผู้ใช้ User Guide)
ของ JR-EAST Train Reservation
https://www.eki-net.com/top/tr/guide/service/
ภาษาอังกฤษ
https://www.jreast.co.jp/e/pdf/press_20230802_regional_pass.pdf
สามารถซื้อตั๋วได้แล้วจากการค้นหาเส้นทาง
Route Search & Reservation จะเป็นตัวช่วยให้คุณค้นหาเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางของคุณได้จากทางเว็บไซต์ของเราที่จะทำให้คุณสามารถซื้อตั๋วและสำรองที่นั่งของเส้นทางที่คุณค้นหาได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ค้นหาเส้นทาง & จองบนเว็บไซต์หลักของ JR East ได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://transit.jre-maas.com/en/?utm_source=jre_official&utm_medium=mail&utm_campaign=en_th
ที่มา: เวกเตอร์ กรุ๊ป
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)