หอไข่มุก Oriental Pearl Tower แลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาด

เมื่อพูดถึงเซี่ยงไฮ้ เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและความทันสมัย หนึ่งในสถานที่ที่ทุกคนต้องนึกถึงก็คือ หอไข่มุก (Oriental Pearl Tower) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมือง ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากจุดชมวิวบนหอคอย Oriental Pearl Tower ไม่เพียงแต่ให้เพื่อน ๆ ได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้จากมุมสูง แต่ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น กระจกใสที่ให้ทุกคน ได้ท้าทายความกล้าด้วยการเดินบนพื้นกระจกที่สามารถมองลงไปเห็นพื้นดินข้างล่างได้ หรือ ใครที่ไม่ใช่สาย adventure ยังมี พิพิธภัณฑ์ Shanghai History Museum ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเซี่ยงไฮ้และมีวัตถุโบราณอีกด้วย

ตกเย็น เพื่อน ๆ ยังสามารถเลือกที่จะนั่งรับประทานอาหารที่ภัตตาคารหมุน ซึ่งตั้งอยู่บนหนึ่งในชั้นของหอคอยที่สามารถหมุนได้แบบ 360 องศา ทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศการรับประทานอาหารพร้อมกับชมวิวเมืองจากมุมสูง ซึ่งจะสร้างความประทับใจและเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำในการท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ให้กับครอบครัวหรือเพื่อน ๆ กลับบ้านไปพร้อมกับรอยยิ้มและความทรงจำดี ๆ

หอไข่มุก: สัญลักษณ์แห่งเซี่ยงไฮ้

Oriental Pearl Tower ตั้งอยู่ในย่านผู่ตง (Pudong) ใกล้แม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River) หอคอยนี้มีความสูงกว่า 468 เมตร และเป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ความโดดเด่นของหอไข่มุกคือการออกแบบที่มีทรงกลมหลายชั้น ซึ่งเปรียบเสมือน "ไข่มุก" ที่เรียงกันตามหอคอย สะท้อนถึงความงดงามและความทันสมัยของเซี่ยงไฮ้ได้อย่างลงตัว

การเดินทางและที่ตั้ง

หอไข่มุก Oriental Pearl Tower ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจผู่ตงของเซี่ยงไฮ้ การเดินทางมาที่นี่สะดวกมาก โดยสามารถใช้รถไฟใต้ดินสาย 2 (Metro Line 2) แล้วลงที่สถานี Lujiazui จากนั้นเดินประมาณ 10 นาทีก็จะถึงหอคอยไข่มุก นอกจากนี้เพื่อน ๆ ที่กลัวหลง ก็สามารถเรียกรถบัสและแท็กซี่มาได้ ไม่หลงแน่นอน!

เวลาเปิด-ปิด และค่าเข้าชม

Oriental Pearl Tower เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00 น. - 21.30 น. แต่เวลาที่แนะนำในการเยี่ยมชมคือช่วงเย็น ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถชมทั้งวิวกลางวันและแสงสีของเมืองยามค่ำคืน ค่าเข้าชมแบ่งออกตามชั้นต่าง ๆ เช่น จุดชมวิวบนสุดที่ 351 เมตร, 263 เมตร และชั้นกระจกที่ 259 เมตร โดยราคาค่าเข้าชมจะอยู่ที่ประมาณ 160-220 หยวนต่อคน ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่เลือก

เซี่ยงไฮ้ สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เนื่องสภาพอากาศที่นี่ก็ไม่แปรปรวนมาก แต่ Govivigo แนะนำเพื่อน ๆ ไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เพราะอากาศจะเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป