10 ที่เที่ยวหน้าฝนทั่วไทย ชมทะเลหมอก โอบกอดป่าเขียว
มีหลายคนถามกันมาว่าหน้าฝนเที่ยวไหนดี? เมื่อพูดถึงที่เที่ยวหน้าฝนต้องนึกถึงป่าเขียวขจีที่ดูชุ่มฉ่ำ ทะเลหมอกหนาๆ ที่ลอยฟุ้ง เป็นบรรยากาศดีๆ ที่หาไม่ได้จากฤดูไหน ใครชอบท่องเที่ยวธรรมชาติรับรองไม่ผิดหวัง กับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยที่ไม่ควรพลาด ทั้งป่า ภูเขา น้ำตก มาครบ
1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (จังหวัดอุตรดิตถ์, จังหวัดพิษณุโลก)
หากพูดถึงภูสอยดาวช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือบริเวณลานสนสามใบภูสอยดาว ที่มีทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งสวยงามท่ามกลางหมอกขาว ทั้งดอกหงอนนาคสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมสีม่วงเข้ม ยังมีน้ำตกให้ได้เที่ยวอีกด้วย เช่น น้ำตกภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
- น้ำตกภูสอยดาว
- น้ำตกสายทิพย์
- ลานสนสามใบภูสอยดาว
- ลานหินลำน้ำภาค
การเดินทาง
- จากจังหวัดพิษณุโลก
ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร
- จากจังหวัดอุตรดิตถ์
ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร
Booking.com
2. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (จังหวัดเลย, จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดเพชรบูรณ์)
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ารวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าฝนจะได้สัมผัสทั้งอากาศเย็นสบายและหมอกที่ลอยฟุ้งไปทั่วเลยทีเดียว ความสวยงามไม่ได้มีแค่นั้น ราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมบริเวณลานหินแตกและลานหินปุ่ม จะถูกปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งมอส กล้วยไม้ ดอกไม้ แต่ที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดก็คือดอกเปราะภู บริเวณลานหินปุ่มที่ออกดอกสีขาวไปทั่วบริเวณ
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
- ลานหินแตก
- ลานหินปุ่ม
- น้ำตกตาดฟ้า
- น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร
- น้ำตกศรีพัชรินทร์
- น้ำตกหมันแดง
- ผาชูธง
- ภูแผงม้า
- กังหันน้ำ
- โรงเรียนการเมืองการทหาร
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ
ไปทางทิศเหนือ ระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ ประมาณ 6 ชั่วโมง ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก 120 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ จากนั้นแยกขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 ระยะทาง 130 กิโลเมตร ถึงตัวเมืองพิษณุโลก
- จากตัวเมืองพิษณุโลก
เส้นทางที่สะดวกที่สุด คือใช้ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายพิษณุโลก - หล่มสัก จากนั้นแยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2013 ไปทางอำเภอนครไทย ก่อนถึงตัวอำเภอนครไทย มีทางแยกขวามือตามทางหลวงหมายเลข 2331 มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สภาพเส้นทางสูงชัน และคดเคี้ยวเป็นบางช่วง
Booking.com
3. ภูทับเบิก (จังหวัดเพชรบูรณ์)
เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ขึ้นชื่อเรื่องทะเลหมอกสีขาวที่ตัดกับยอดภูสีเขียว และไร่กะหล่ำปลีที่มองรวมกันแล้วสวยงามสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ทะเลหมอกจะดูหนานุ่มเป็นพิเศษ ใครมาเที่ยวก็ต้องติดใจกับวิวเหนือเมฆที่เห็นได้แบบ 360 องศา พูดได้ว่าเหมือนยืนอยู่บนท้องฟ้า แค่ออกจากที่พักก็เห็นทะเลหมอกอย่างเต็มอิ่มได้แล้ว
การเดินทาง
- จากเพชรบูรณ์
ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกสูงชันและคดเคี้ยวมาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง
- จากพิษณุโลก ทางด้านอำเภอนครไทย
ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เลยที่ทำการอุทยานฯ มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่ลงไปยังอำเภอหล่มเก่า
Booking.com
4. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (จังหวัดชัยภูมิ)
อุทยานแห่งชาติป่าหินงามในช่วงฤดูฝนคือตั้งแต่ช่วงมิถุนายน-สิงหาคม นักท่องเที่ยวจะได้ชมทุ่งดอกกระเจียวที่เบ่งบานไปทั่วตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน ดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงขึ้นตัดกับสีเขียวของต้นหญ้า เป็นหนึ่งในช่วงที่สวยงามและน่าไปเที่ยวมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
- ลานหินงาม
- เขาพนมโดม
- จุดชมวิวสุดแผ่นดิน
- น้ำตกเทพประทาน
- น้ำตกเทพพนา
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ
มาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านสระบุรีจนถึงบ้านพุแค เลี้ยวขวามาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 จนถึงอำเภอชัยบาดาล แล้วใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 ผ่านกิ่งอำเภอลำสนธิ
ก่อนถึงอำเภอเทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม รวมระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร
- จากจังหวัดนครราชสีมา
ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 ผ่านอำเภอโนนไทย บ้านหนองบัวโคก บ้านคำปิง เมื่อเลยอำเภอเทพสถิตมาประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางทางประมาณ 17 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร
Booking.com
5. เขื่อนรัชชประภา (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
เขื่อนรัชชประภาหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสก ใครอยากพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ หน้าฝนนี้ต้องไม่พลาดไปนอนแพที่เขื่อนรัชชประภา ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณสันเขื่อนจะกรุ่นไปด้วยไอหมอกที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว และความสวยงามของทะเลสาบเหนือเขื่อนที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาและพื้นน้ำกว้างช่วยให้จิตใจสงบ พักผ่อนได้สบายๆ จนลืมเวลาแน่นอน
สถานที่ท่องเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา
- เขาสามเกลอ
- ถ้ำน้ำทะลุ
การเดินทาง
จากอำเภอเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข 401 แยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.2 (เชี่ยวหลาน) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 60 ระยะทาง 14 กิโลเมตร
Booking.com
6. เขาค้อ (จังหวัดเพชรบูรณ์)
ว่ากันว่าเขาค้อสวยที่สุดในฤดูฝน ทั้งทะเลหมอกที่ลอยฟุ้ง ความเขียวขจีของภูเขาและอากาศเย็นสบาย ทำให้เขาค้อเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าฝนที่จะไม่ทำให้ผู้มาเยือนผิดหวัง ที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ 10 ที่พักเขาค้อ วิวดีๆ หมอกเน้นๆ
สถานที่ท่องเที่ยวในเขาค้อ
- วัดพระธาตุผาแก้ว
- พระตำหนักเขาค้อ
- แก่งบางระจัน
การเดินทาง
- จากเพชรบูรณ์
ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 สายเพชรบูรณ์-หล่มสัก ถึงสามแยกนางั่ว ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร
- จากทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก
บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100 บ้านแคมป์สน เลี้ยวเข้าเขาค้อตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีกประมาณ 33 กิโลเมตร เส้นทางนี้มีรีสอร์ทที่สวยงามหลายแห่ง
*พาหนะที่จะขึ้นเขาค้อ ไม่ควรใช้รถบัสขนาดใหญ่ เพราะมีทางโค้งมาก ถนนค่อนข้างแคบและลาดชัน
Booking.com
7. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (จังหวัดเชียงใหม่)
หลายๆ คนมักจะนึกถึงดอยอินทนนท์เฉพาะช่วงหน้าหนาว แต่ขอบอกว่าหน้าฝนก็สวยไม่แพ้กัน ไม่เพียงแต่อากาศเย็นสบายกำลังดีแล้ว ความชุ่มฉ่ำของสายฝนทำให้พื้นป่าในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เขียวสดยิ่งขึ้น ถ้าไปเที่ยวหน้าฝนแนะนำให้ไปเดินป่าที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งมีหลายแห่งด้วยกัน เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ป่าไม้ที่สวยงามจะทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
- ยอดดอยอินทนนท์
- พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
- น้ำตกแม่กลาง
- น้ำตกวชิรธาร
- น้ำตกวังควาย
- โครงการเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
- โครงการหลวงอินทนนท์
- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติถ้ำบริจินดา
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว
การเดินทาง
- จากตัวเมืองเชียงใหม่
เดินทางโดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ผ่านอำเภอหางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009 (จอมทอง-ดอยอินทนนท์) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 48 กิโลเมตร ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 31
Booking.com
8. วนอุทยานภูลังกา (จังหวัดพะเยา)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปสักครั้งหนึ่ง ทิวทัศน์ของสายหมอกที่ไหลเอื่อยตามแรงลมผ่านทิวเขาเป็นวิวที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน ถ้าใครพลาดทะเลหมอกในช่วงหน้าฝนยังมีทะเลหมอกช่วงหน้าหนาวให้ได้ชมเช่นกัน จุดชมวิวทะเลหมอกของภูลังกามีอยู่หลายจุด ที่นิยมกันคือบริเวณภูลังการีสอร์ท และภูเทวดา
สถานที่ท่องเที่ยวในวนอุทยานภูลังกา
- ดอยภูนม
- ภูเทวดา
- ดอยภูลังกา
- ดอยหัวลิง
การเดินทาง
- จากอำเภอเมืองเชียงราย
ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1148 ถึงอำเภอเทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร จากอำเภอเทิงถึงอำเภอเชียงคำ 26 กิโลเมตร ไปบ้านทุ่งหล่มใหม่ 8 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางทิศเหนือถึงบ้านแฮะ 12 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปอีก 5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางทิศเหนือถึงวนฯ 12 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมด 127 กิโลเมตร
- จากจังหวัดพะเยา
ผ่านอำเภอปงถึงแยกทางเข้าอำเภอเชียงคำตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1092 ระยะทาง 104 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่ออีก 3 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1148 เลี้ยวซ้ายไปทางทิศเหนือถึงวนฯ 12 กิโลเมตร รวมระยะทาง 119 กิโลเมตร
- จากอำเภอเมืองน่าน
ถึงอำเภอท่าวังผาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1080 ระยะทาง 43 กิโลเมตร เดินทางไปทางเหนือแล้วเลี้ยวขวาไปอำเภอสองแถวตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1148 ระยะทาง 33 กิโลเมตร จากอำเภอสองแถวถึงอำเภอเชียงคำแล้วเดินทางต่อไปถึงวนฯ 71 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมด 147 กิโลเมตร
Booking.com
9. บ้านป่าบงเปียง (จังหวัดเชียงใหม่)
เปลี่ยนบรรยากาศออกจากทะเลหมอกมาชมพื้นนาสีเขียวสดกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงกันบ้าง ในช่วงเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงที่ทุ่งนาเขียวขจี พอเข้าปลายเดือนตุลาคมนาข้าวจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงาม สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพแนะนำให้ไปช่วงบ่ายๆ ไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดินเพราะแสงจะสวยเป็นพิเศษ
การเดินทาง
- จากด้านดอยอินทนนท์
เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกที่จะไป อ.แม่แจ่ม ขับไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร จะพบป้ายน้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้าย ผ่านน้ำตกห้วยทรายเหลือง น้ำตกแม่ปานและน้ำตกผาสำราญ จะถึงลานจอดรถ เส้นทางต่อจากนี้ไปต้องใช้รถ 4WD เข้าไปเท่านั้น ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร สามารถติดต่อเช่ารถไปได้
- จากอ.แม่แจ่ม
จากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มให้เลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ 1 กิโล จะมีทางแยกซ้ายมือไปวัดพุทธเอิ้นและนาขั้นบันไดบ้านกองกาน ตรงไปเรื่อยๆประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงบ้านทุ่งยาวขับตรงไป เลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลแม่นาจร 16 จะพบวัดทุ่งยาวให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบหมู่บ้านแม่มิงค์ เลี้ยวขวาตามป้ายร.ร.อินทนนท์วิทยา จะพบหน่วยจัดการต้นน้ำแม่อวม ขับต่อไปถึงบ้านป่าตึงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางลาดยางซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณนี้ ขับตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบทางแยกเลี้ยวขวาไปบ้านป่าบงเปียง
Booking.com
10. น้ำตกทีลอซู (จังหวัดตาก)
น้ำตกที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของไทย ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่สวยที่สุดของน้ำตกทีลอซูเพราะน้ำเยอะและป่าเขียวชะอุ่ม แต่มีข้อเสียคือการเดินทางค่อนข้างลำบาก เพราะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางจะปิดเส้นทางเดินรถยนต์ หากอยากไปเที่ยวช่วงหน้าฝนต้องติดต่อบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ เพราะมีเพียง 2 เส้นทางสำหรับการเข้าไปเท่านั้น คือ
- การล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านรังสิตจังหวัดปทุมธานี เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ที่อำเภอวังน้อย เดินทางผ่านจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี จากนั้นตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 1 อีกครั้งที่จังหวัดนครสวรรค์ ไปต่อยังจังหวัดกำแพงเพชรจนถึงตาก รวมระยะทางประมาณ 426 กิโลเมตร
จากตัวเมืองตากขับรถไปต่อตามทางหลวงหมายเลข 105 อีก 83 กิโลเมตรถึงอำเภอแม่สอด จากนั้นจะเป็นถนนลาดยางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ที่ขอแนะนำให้คนเมารถกินยาล่วงหน้าก่อนเลย เพราะระยะทางอีก 164 กิโลเมตรไปจนถึงอำเภออุ้มผางนั้นเปรียบได้กับถนนลอยฟ้าที่คดเคี้ยวที่สุดของเมืองไทย
- จากกรุงเทพฯ ยังสามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทางเที่ยวอำเภออุ้มผางได้ ออกจากกรุงเทพฯ ค่ำๆ ถึงแม่สอดก็เช้าพอดี จากนั้นใช้บริการรถสองแถวไปอำเภออุ้มผาง หรือจะจองแพคเกจทัวร์กับทางรีสอร์ทบนอุ้มผางก็ได้รถของทางรีสอร์ทจะมาแวะรับที่อำเภอแม่สอดและพาคุณไปส่งที่พัก ไม่ต้องนั่งรอรถสองแถวไปเอง
Booking.com
สิทธิพิเศษจาก govivigo จองที่พักวิวทะเลหมอกในราคาพิเศษได้ที่นี่
Booking.com
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)