เที่ยวใกล้ไทย 10 เมืองน่าไปในอาเซียน
วันนี้ขอแนะนำ 10 เมืองน่าเที่ยวของประเทศในอาเซียนกันบ้าง แต่ละเมืองมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม ธรรมชาติที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อยากเที่ยวเมื่อไหร่ก็เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางได้เลย
1. เสียมเรียบ, กัมพูชา (Siem Reap, Cambodia)
เสียมเรียบหรือเสียมราฐ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ตั้งของนครวัด นครธม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของกัมพูชา แต่เสียมเรียบก็ไม่ได้มีเพียงแค่ปราสาทเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนบรรยากาศไปล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวประมงที่หมู่บ้านลอยน้ำในโตนเลสาบ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- นครวัด นครธม (Angkor Wat - Angkor Thom) - ถ้านึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในกัมพูชาก็ต้องนึกถึงที่นี่เป็นแห่งแรก ปราสาทขอมที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองเสียมเรียบไปแล้ว
- ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm ) - เป็นวัดในพุทธศาสนาและวิหารหลวงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ภาพที่หลายคนคุ้นตาคือภาพรากไม้ที่ชอนไช พาดอยู่บนตัวปราสาท
- ปราสาทบันทายศรี (Banteay Srei) - ด้วยลวดลายศิลปะบนตัวปราสาทที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ปราสาทแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในปราสาทหินที่สวยที่สุดในกัมพูชา
- โตนทะเลสาบ (Tonlé Sap) - ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดของกัมพูชารวมทั้งเสียมเรียบด้วย
การเดินทางไปเที่ยวประเทศกัมพูชา
- ขึ้นรถบ.ข.ส. ที่หมอชิต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 - 10 ชั่วโมง (ก่อนเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเสียมเรียบ แนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้า เพราะส่วนใหญ่จะเต็มตลอด แต่ขากลับจากเสียมเรียบ มากรุงเทพฯ จะไม่ค่อยมีคน)
- บินตรงจากไทยไปเสียมเรียบ ปัจจุบันมีสายการบินให้เลือกใช้บริการหลายสายการบิน เช่น Thai Smile, Air Asia, Bangkok Airway ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ
2. ฮอยอัน, เวียดนาม (Hoi an, Vietnam)
ฮอยอันเมืองเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเวียดนาม ถ้าเดินเล่นในเมืองจะพบกับวัดเก่าแก่ บ้านเรือนแบบโบราณ และบรรยากาศเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต ฮอยอันจึงถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกโดย UNESCO มาถึงฮอยอันสิ่งที่พลาดไม่ได้คืออาหารพื้นเมืองเวียดนามที่มีให้เลือกหลากหลายอย่าง
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall) - ศูนย์กลางของการเที่ยวชมเมืองโบราณฮอยอัน เป็นสมาคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน
- สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) - หนึ่งในสัญลักษณ์ของฮอยอัน ก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว
- แม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) - แม่น้ำสายสำคัญของเมืองฮอยอัน ปัจจุบันสองฝั่งของแม่น้ำเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และร้านค้าต่างๆ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันมาก
- หาดเกาได๋ (Cao Dai Beach) - ออกจากเขตเมืองเก่าไปไม่ไกล จะพบกับชายหาดสวยๆ บรรยากาศเงียบสงบ บริเวณชายหาดยังมีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ให้เลือกชิมหลายร้าน
การเดินทางไปเที่ยวฮอยอัน
- จากจังหวัดมุดดาหารขับรถหรือนั่งรถบัสไปที่แขวงสะหวันนะเขต, ลาว จากนั้นต่อรถบัสไปลงเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม จากดานังมีรถประจำทางไปฮอยอัน ออกทุกครึ่งชั่วโมง
- นั่งเครื่องบินลงที่เมืองดานัง แล้วจึงต่อรถประจำทางไปฮอยอัน
3. หลวงพระบาง, ลาว (Luang Prabang, Laos)
หลวงพระบางเป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำคาน เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตช้าๆ เดินเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เข้าวัด ชมธรรมชาติ และถ้าไปเที่ยวลาวก็ห้ามพลาดกาแฟลาว รสชาติดีไม่แพ้ที่ไหน ถ้าอยากเที่ยวแบบเย็นสบายต้องไปประมาณปลายเดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ แต่ถ้าอยากไปถ่ายรูปสวยๆ ฟ้าใสๆ ต้องไปช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน แต่อากาศจะค่อนข้างร้อนสักหน่อย
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- วัดเชียงทอง (Wat Xieng Thong) - วัดเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของหลวงพระบาง
- วัดใหม่สุวรรณภูมาราม (Wat Mai Suwannaphumaham) - หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า วัดใหม่ เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบาง
- ถ้ำปากอูหรือถ้ำติ่ง (Tam Ting caves) - อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางประมาณ 25 กม. สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า เทวดาผาติ่ง
- พระราชวังหลวงพระบาง (Royal Palace) - อยู่ตรงข้ามทางขึ้นพระธาตุพูสี แต่เดิมเป็นพระราชวัง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ที่เก็บโบราณวัตถุสำคัญๆ และเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง (ถ้าจะเข้าไปชมภายในต้องแต่งกายสุภาพ)
- น้ำตกกวางสี (Kuang Si Waterfall) - อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปประมาณ 32 กม. น้ำตกกวางสีเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง
- น้ำตกตาดแส้ (Tad Sae Waterfall) - อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปประมาณ 15 กม. ชั้นน้ำตกไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับน้ำตกกวางสี เป็นเหมือนสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ
- ตลาดเช้าท่าเรือเมล์ - อยู่ใจกลางเมือง ชาวหลวงพระบางจะมาจับจ่ายซื้อของกันที่นี่ มีทั้งอาหารสด อาหารแห้งนานาชนิด
การเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบาง
ทางรถยนต์ส่วนตัว
- ด่านสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 1 บ้านจอมมณี ต.มีชัย จ. หนองคาย เข้าทางเวียงจันทน์ ผ่านเมืองวังเวียง เมืองกาสี เมืองพูคูน เมืองกิ่วกะจำ เมืองเชียงเงินและเข้าสู่หลวงพระบางเส้นทางตั้งแต่กาสีไปหลวงพระบางค่อนข้างคดเคี้ยวต้องขับอย่างระมัดระวัง ใช้เวลาเดินทางจากเวีบงจันทร์ไปยังหลวงพระบางประมาณ 7 - 8 ชั่วโมง
- ด่าน อ.เชียงของ จังหวัดเชียงราย เข้าทางบ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว จากเชียงของนำรถข้ามแดนที่บริเวณ ท่าเรือบั๊ค ข้ามแพขนานยนต์ไปยัง เมืองห้วยทรายแขวงบ่อแก้ว จากนั้นขับไปทางเหนือผ่านแขวงหลวงน้ำทา แขวงอุดมไซ ไปจนถึงแขวงหลวงพระบาง
ทางรถโดยสาร
- นั่งรถบัสไปลงที่สถานีขนส่งเวียงจันทน์ จากนั้นต่อรถจากสถานีขนส่งสายเหนือไปยังหลวงพระบาง
ทางเครื่องบิน
- สามารถบินตรงจากไทยไปยังหลวงพระบางได้ ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น สายการบินที่เปิดให้บริการเช่น AirAsia, Bangkok Airway, Lao Airlines
4. บาหลี, อินโดนีเซีย (Bali, Indonesia)
บาหลีคือหนึ่งในเมืองที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ครบทั้งชายหาดสวยงาม บรรยากาศโรแมนติก และยังมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร หากอยากไปเที่ยวบาหลีนั้นไม่ยากเลยเพราะคนไทยไม่ต้องขอวีซ่าและบินเพียง 4 ชั่วโมงกว่าๆ สำหรับช่วงเวลาดีๆ ที่ควรไปเที่ยวคือประมาณเดือนเมษายน - กันยายน
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- วัดทานาล็อต (Pura Tanah Lot) - วิหารที่อยู่บนผาหินนอกชายฝั่ง อนุญาตให้เข้าไปข้างในได้เฉพาะผู้มาสักการะเท่านั้น หากนักท่องเที่ยวต้องการมาชมความงดงามสามารถชมได้จากเนินหินที่อยู่ใกล้ๆกัน
- วัดอูลูวาตู (Pura Uluwatu) - หนึ่งในวัดสำคัญของบาหลี ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเล ใครจะมาเที่ยวที่นี่ต้องระวังลิงมาหยิบขโมยของด้วย
- วัดอูลันดานูบาตูร์ (Pura Ulun Danu Bratan) - วัดที่สวยที่สุดในบาหลี อยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตัน มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟสูง โดดเด่นตรงศาลาหลังคาทรงสูง มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น
- วัดเบซากีห์ (Pura Besakih) - วัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของบาหลี ประกอบด้วยวัดเล็กๆ เกือบ 30 แห่งที่เรียงรายอยู่เป็นขั้นๆ กว่า 7 ขั้นไปตามไหล่เขา
- หาดกูต้า (Kuta Beach) - เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทยอดนิยมในบาหลี ชายหาดกูต้านี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสายตลอดทั้งปี
การเดินทางไปเที่ยวบาหลี
จากไทยไปบาหลีมีสายการบินที่บินตรง 2 สายการบินคือ AirAsia และการบินไทย สายการบินอื่นๆ เช่น Jetstar, TigerAir, Malaysia Airline จะแวะพัก 1 ครั้ง5. ซาบาห์, มาเลเซีย (Sabah, Malaysia)
ซาบาห์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะลงทะเลหรือปีนขึ้นภูเขา ใครที่รักการผจญภัยต้องไม่พลาดปีนเขาไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูเขาคินาบาลู ภูเขาที่สูงที่สุดของมาเลเซีย หรือไปดำน้ำที่เกาะสิปาดัน เกาะกลางมหาสมุทรที่ล้อมรอบไปด้วยจุดดำน้ำกว่า 13 จุดที่สวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- ภูเขาคินาบาลู (Kinabalu Park) - ภูเขาที่สูงที่สุดของมาเลเซีย เต็มไปด้วยความหลากหลายของระบบนิเวศของพันธุ์พืชและสัตว์ คนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยพลาดไม่ได้
- เขตป่าสงวน Kabili-Sepilok (Kabili-Sepilok Nature Reserve) - เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามรอยความงามของธรรมชาติ เช่น ล่องเรือชมแม่น้ำ ป่าชายเลน และยังเป็นบ้านของอูรังอูตังอีกด้วย
- เกาะสิปาดัน (Sipadan Island) - หนึ่งในเกาะขนาดเล็กของมาเลเซีย ใช้เวลาเดินรอบๆ เกาะแค่เพียง 25 นาที แต่บริเวณนี้ถือเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำดำที่สวยงาม
- เกาะมาบูล (Mabul Island) - เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทะเลเซเลเบสในจุดที่น้ำทะเลใสสะอาดนอกชายฝั่งของเมืองซาบาห์ กิจกรรมหลักของเกาะคือดำน้ำ ซึ่งสามารถดำน้ำได้ตลอดทั้งปี
- อุทยานทางทะเลปูเลาทิกา (Pulau Tiga Marine Park) - กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ของที่นี่คือ การแช่โคลนภูเขาไฟที่ดีต่อผิว ดำน้ำ กีฬาทางน้ำที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ เดินป่า ดูนก
การเดินทางไปเที่ยวซาบาห์
ตอนนี้ยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทยไปลงที่เมืองโกตา คินาบาลูในรัฐซาบาห์ สายการบินส่วนใหญ่จะบินไปลงที่กัวลาลัมเปอร์ก่อน จากนั้นจึงต่อเครื่องไปยังโกตา คินาบาลู
6. มัณฑะเลย์, พม่า (Mandalay, Myanmar)
ถ้าเทียบกับเมืองเก่าแก่อื่นๆ ในพม่าแล้ว มัณฑะเลย์นั่นดูจะใหม่กว่าเมืองอื่นๆ เพราะสร้างขึ้นเมืองปี 1857 โดยพระเจ้ามินดง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือพระราชวังมัณฑะเลย์ ปัจจุบันด้านนอกกำแพงออกไปเป็นบ้านเรือน ตลาด โรงงานของช่างฝีมือและร้านค้าต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้แวะชม ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นวัด
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) - พระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง แต่พระราชวังเดิมนั้นถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวพระราชวังในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยรัฐบาลพม่าบนพื้นที่เดิม
- วัดชเวนันดอร์ (Shwenandaw Monastery) - วัดเก่าแก่ที่รอดจากระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างขึ้นจากไม้สักทอง ภายในแกะสลักอย่างสวยงาม
- มัณฑะเลย์ฮิลล์ (Mandalay Hill) - ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ สูง 236 เมตร ระหว่างทางเดินขึ้นเขาจะมีปูชนียสถานให้สักระบูชาเป็นระยะ หากไม่อยากเดินขึ้นสามารถนั่งรถสองแถวขึ้นไปได้
- วัดพระมหามัยมุนี (Mahamuni Buddha Temple) - เป็นที่ประดิษฐานพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของพม่า และยังเป็นหนึ่งในห้าศาสนวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ของพม่าอีกด้วย
- สะพานไม้สักอูเบ็ง (U Bein Bridge) - สะพานที่ทำจากไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 2 กิโลเมตร ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมาน ใกล้กับเขตหมู่บ้านมิงกุน
- เจดีย์ชินพิวเมหรือเมียะเต็งดาน (Hsinbyume Pagoda) - พระเจ้าบากะยีดอว์สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระมเหสีชินพิวมิน เจดีย์สีขาวตั้งอยู่บนฐาน 7 ชั้น สวยงามจนได้รับสมญาว่า "ทัชมาฮาลแห่งอิรวดี"
การเดินทางไปเที่ยวมัณฑะเลย์
ตอนนี้มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังมัณฑะเลย์ สองสายการบินคือ Air Asia และ Bangkok Airway
7. โบราเคย์, ฟิลิปปินส์ (Boracay, Philippines)
โบราเคย์เป็นเกาะไม่ใหญ่แต่สวยติดอันดับโลก มีหาดทรายขาวทอดยาวกว่า 4 กิโลเมตร ชายหาดสวยๆ ของเกาะคือฝั่งที่เรียกว่า White Beach จะถูกแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือด้านเหนือสุดของหาด เป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทหรูระดับห้าดาว ส่วนบริเวณกลางหาดเป็นจุดสังสรรค์ ปาร์ตี้อย่างเต็มที่ ส่วนนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารและบาร์ ถ้าอยากหาบรรยากาศเงียบสงบ พักผ่อนสบายๆ ต้องไปที่ทางใต้สุดของหาด ช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะสุดคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - พฤษภาคม
การเดินทางไปเที่ยวโบราเคย์
จากไทยยังไม่มีสายการบินที่บินตรงไปยังสองสนามบินใกล้เกาะโบราเคย์ จึงต้องเปลี่ยนเครื่องที่มะนิลา ก่อน จากนั้นต่อเครื่องไปลงสนามบิน Caticlan หรือสนามบิน Kalibo จากนั้นต่อรถไปยังโบราเคย์
8. ชวาตะวันออก, อินโดนีเซีย (East Java, Indonesia)
หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซีย เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟโบรโมที่ยังคงมีควันกรุ่นออกมาอยู่ตลอด ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางขึ้นไปบนภูเขาไฟช่วงฟ้าสาง เพื่อให้ทันช่วงพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากภูเขาไฟโบรโมแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเมืองอื่นๆ ของจังหวัดชวาตะวันออกที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- ภูเขาไฟโบรโม (Mount Bromo) - อยู่ในอุทยานแห่งชาติโบรโมเทงเกอร์เซเมรู แม้ไม่ได้เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
- คาวา อิเจียน (Kawah Ijen) - อีกหนึ่งภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ด้านบนภูเขาไฟมีทะเลสาบสีเขียวเป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้หลายๆ คนที่ไปก็เพื่อไปดูเปลวไฟน้ำเงินที่ปะทุออกมาจากบริเวณปากปล่อง
- Baluran National Park - อุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ ใจกลางอุทยานเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ Baluran
- น้ำตกโคบัน เปอลางี (Coban Pelangi Waterfall) - อยู่ทางตะวันออกของเมืองมาลัง เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ใกล้ๆ กับน้ำตกมีรีสอร์ทเล็กๆ ที่มีวิวสวยงาม
การเดินทางไปเที่ยวชวาตะวันออก
บินจากไทยไปลงที่สนามบินในเมืองสุราบายา จังหวัดชวาตะวันออก ตอนนี้ยังไม่มีเที่ยวบินตรง
9. มุยเน่, เวียดนาม (Mui Ne, Vietnam)
มุยเน่เป็นหนึ่งในเมืองตากอากาศของเวียดนาม เป็นเมืองริมทะเลที่มีชายหาดทอดยาว 10 กิโลเมตร ที่นี่ไม่ได้ดังในเรื่องของความสวยงามใต้ทะเล จึงไม่มีกิจกรรมดำน้ำ แต่ถ้าใครอยากเล่นเซิร์ฟสามารถสนุกได้ในช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคม ที่คลื่นลมกำลังดี นอกจากนี้จุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองอย่างมากคือบริเวณทะเลทราย ที่มีชื่อคือ "ทะเลทรายสีแดง" (Doi Cat) และ "ทะเลทรายสีขาว" (Bau Trang)
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- ทะเลทรายขาว (White Sand Dunes) - อยู่ห่างจากตัวเมืองมุยเน่ประมาณ 30 กม. เป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในมุยเน่
- ทะเลทรายแดง (Red Sand Dunes) - อยู่ห่างจากตัวเมืองมุยเน่มาประมาณ 5 กม. เป็นที่นิยมถ่ายรูปมากกว่าทะเลทรายขาว และยังมีกิจกรรมให้ทำได้มากกว่า
- ซุยเตียน (Fairy Stream) - หรือแกรนด์แคนยอนแห่งเวียดนาม เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลม
- หมู่บ้านชาวประมง (Mui Ne Fishing Village) - ที่นี่เต็มไปด้วยเรือหาปลาหลากสีสันที่ลอยอยู่ทะเล และถ้าใครอยากทานอาหารทะเลบริเวณนี้ก็มีให้เลือกหลายร้าน
การเดินทางไปเที่ยวมุยเน่
สนามบินที่ใกล้มุยเน่ที่สุดคือ สนามบินเตินเซินเญิ้ต เมืองโฮจิมินห์ จากโฮจิมินห์ไปมุยเน่ วิธีที่เร็วที่สุดคือรถแท็กซี่ ใช้เวลาเดินทางราวๆ 4 ชั่วโมง (การใช้บริการแท็กซี่ในเวียดนามต้องตกลงเรื่องราคาให้แน่นอน) ถ้าอยากเดินทางโดยรถบัสต้องไปขึ้นรถบัสที่ Pham Ngu Lao ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 -6 ชั่วโมง
10. สิงคโปร์ (Singapore)
ถ้าเอ่ยถึงสิงคโปร์หลายๆ คนคงพอมีข้อมูลอยู่บ้างแล้ว ถึงจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่สิงคโปร์ก็มีอะไรให้เที่ยวเยอะ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแล้ว ความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางท่องที่ค่อนข้างดี ทำให้การท่องเที่ยวในสิงคโปร์เป็นเรื่องง่าย ใครๆ ก็สามารถไปเที่ยวเองได้
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
- Universal Studios Singapore ธีมปาร์คชื่อดังที่หลายๆ คนรู้จัก ใกล้ๆ กับ Universal Studios บนเกาะ Sentosa ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย
- Singapore Flyer ชิงช้าสววรค์ที่สามารถชมวิวของสิงคโปร์ได้แบบ 360 องศา แนะนำให้ถ้าขึ้นช่วงเย็นๆ เพราะจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน และยังได้เห็นวิวสิงคโปร์ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนอีกด้วย
- Garden by the Bay ไฮไลท์ของที่นี่คือ Flower Dome จัดแสดงดอกไม้นานาพันธุ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม, Cloud Forest เสมือนสวนลอยฟ้า และ บริเวณ Supertree Grove ต้นไม้ยักษ์ ประดับด้วยแสงไฟสวยงามยามค่ำคืน
- Marina Bay Sands โรงแรมหรู ที่ภายในมีทั้งห้างสรรพสินค้า คาสิโน และร้านอาหาร
- ย่าน China Town อีกหนึ่งย่านมีมีสีสันของสิงคโปร์ ที่นี่รวมวัฒนธรรมทั้งเก่าและใหม่ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใครอยากชิมอาหารอร่อยๆ หรืออาหารขึ้นชื่อ เช่น ข้าวมันไก่ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่ย่านนี้
- ย่าน Clarke Quay ย่านนี้จะยิ่งมีชีวิตชีวาเมื่อตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว Clarke Quay เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ เป็นชีวิตยามค่ำคืนที่สีสันริมแม่น้ำในสิงคโปร์
- ถนนออชาร์ด เรียกได้ว่าเป็นช้อปปิ้งสตรีทที่คนไทยคุ้นเคย ถนนออร์ชาร์ดเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง มีตั้งแต่สินค้าราคาประหยัดไปจนถึงแบรนด์ดังราคาแพง
- Merlion Park ที่ตั้งของสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์อย่าง เมอร์ไลออน ใครมาเที่ยวสิงคโปร์แล้วไม่ได้มาที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึง
การเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์
จากไทยไปสิงคโปร์มีหลายสายการบินให้เลือกใช้บริการ ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)